รวมไว้ให้แล้ว ค่าใช้จ่ายอะไรใช้ลดหย่อนภาษีประจำปี 2561 ได้บ้าง
by Anirut.j, 30 พฤศจิกายน 2561
ช่วงปลายปีแบบนี้หลายท่านคงเตรียมทำหน้าที่พลเมืองที่ดีด้วยการยื่นเสียภาษีประจำปีประจำปี 2561 โดยในแต่ละปีทางรัฐบาลก็จะการออกมาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเพื่อให้ประชาชนจับจ่ายซื้อสินค้ากันมากขึ้น ตลอดจนการปรับโครงสร้างทางภาษีที่เราทุกคนต้องปฏิบัติตาม
ดังนั้น Smartsme เราจะมาอัพเดทรายการลดหย่อนภาษีประจำปี 2561 กันว่ามีหมวดหมู่อะไรบ้างที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งสามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ดังต่อไปนี้
ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว
- ค่าลดหย่อนส่วนบุคคลสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนจากคู่สมรสสามารถลดหย่อนภาษีได้ 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูบุตร คนละ 30,000 บาท
- ค่าลดหย่อนภาษีเลี้ยงดูบิดา-มารดา หักได้ไม่เกิน 30,000 บาท
- ค่าอุปการะคนพิการหรือคนทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาท
- ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร นำมาหักค่าใช้จ่ายสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
ค่าลดหย่อนภาษีตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- เที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด นำค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2561)
ค่าลดหย่อนภาษีจากการบริจาค
- เงินบริจาคเพื่อการศึกษา สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ของจำนวนที่จ่ายจริง โดยเงินบริจาคต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังลดหย่อนภาษี
- เงินบริจาคให้สถานพยาบาลของรัฐ สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนจ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังลดหย่อนภาษี
- เงินบริจาคเข้ากองทุนวิจัย สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนจ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังลดหย่อนภาษี (มีผลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562)
- เงินบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆ สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนจ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังลดหย่อนภาษี
- เงินบริจาคทั่วไป สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามที่บริจาคจริง เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่นๆ ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักภาษี
ค่าลดหย่อนจากประกันชีวิตและเงินออม
- เงินประกันสังคม ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 9,000 บาท
- กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 13,200 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพ ไม่เกิน 15,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพบิดา-มารดา ไม่เกิน 15,000 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ 15% ของเงินได้พึงประกันไม่เกิน 200,000 บาท
- ค่าซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีไม่เกิน 500,000 บาท
- ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อเลี้ยงชีพ ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีไม่เกิน 500,000 บาท
- เงินสะสม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข./กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีไม่เกิน 500,000 บาท
โดยท่านที่สนใจอยากจะศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปได้ที่กรมสรรพากร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Mostview
คนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บสำหรับการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท
ภายในงาน KKP Financial Talk: Money Master #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้ ซึ่งมีการพูดถึงปัญหาและคำแนะนำให้กับ Sandwich Generation ผู้แบกภาระการดูแลทั้งคนรุ่นก่อน และรุ่นหลังไว้ ในขณะที่เศรษฐกิจไม่เกื้อหนุนให้พวกเขาได้สบายขึ้น
กล้าพอไหม! Airbnb เปิดให้เข้าพักบ้านลอยฟ้า มีลูกโป่งกว่า 8,000 ใบ โยงติดอยู่บนหลังคา
หากอยากจะทำอะไรตื่นเต้นต้องมาทางนี้ เมื่อ Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักได้เปิดตัวโปรเจคต์ “Icon” เพื่อสร้างประสบการณ์พักผ่อนให้กับลูกค้า เปลี่ยนสิ่งที่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ให้กลายเป็นความจริง
ซีพีออลล์ ทำรายได้ไตรมาส 1/2567 รวม 241,307 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 พบว่าบริษัทมีรายได้รวม 241,307 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท
6 วิธีสร้างแนวคิดอย่างยั่งยืนให้ธุรกิจของคุณ แถมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
การยึดมั่นในเรื่องของความยั่งยืนไม่ได้เป็นประโยชน์กับสภาพแวดล้อม และเศรษฐกิจท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังส่งผลเชิงบวกให้กับแบรนด์อีกด้วย ดังนั้น เรามาดูกลยุทธ์ทางธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่คนเป็นผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้ ผ่านวิธีการเหล่านี้