เผยขยะจากการท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติปี 60 พุ่งสูงถึง 5 หมื่นตัน วอนปีใหม่เที่ยวแบบไม่มักง่าย ช่วยกันรักษาแหล่งท่องเที่ยวให้สวยงามต่อไป

นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ในปี 2560 พบว่า มีขยะมูลฝอยเกิดขึ้นทั่วประเทศถึง 27.40 ล้านตัน มีอัตราการเกิดขยะมูลฝอยต่อคน 1.13 กิโลกรัม/คน/วัน โดยมีขยะที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยวประมาณ 54,573 ตัน ขยะที่เกิดขึ้นมีบางส่วนได้รับการจัดการไม่ถูกต้อง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว

โดยพยายามขับเคลื่อนร่วมกับทุกภาคส่วนลดปริมาณขยะมูลฝอย โดยเฉพาะการลดพลาสติกใช้ครั้งเดียว ภายใต้โครงการ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และองค์การสวนสัตว์ ได้กำหนดห้ามนำเข้าภาชนะที่ทำด้วยโฟม พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติและสวนสัตว์ เพื่อสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษ และลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและระบบนิเวศ

อย่างไรก็ตาม ในเทศกาลปีใหม่นี้ ขอความร่วมมือประชาชน ช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อม ลดปริมาณขยะ ลดการใช้ถุงพลาสติก คัดแยกขยะก่อนทิ้งและทิ้งขยะลงในถังหรือภาชนะที่จัดไว้ เลือกใช้ภาชนะที่ทำจากวัสดุธรรมชาติแทนกล่องโฟมและถุงพลาสติก และขอให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ หากนำอาหารหรือสิ่งใดเข้าไปในพื้นที่ให้นำออกมาทิ้งตามจุดที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อรักษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่อไป

นายประลอง กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติโดยเฉพาะที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติมากถึง 55 ล้านคน โดยที่หาดนพรัตน์ธารา –หมู่เกาะพีพี มีปริมาณนักท่องเที่ยว 1.88 ล้านคน -เขาใหญ่ มีปริมาณนักท่องเที่ยว 1.49 ล้านคน -ดอยอินทนนท์ มีปริมาณนักท่องเที่ยว 0.79 ล้านคน -เอราวัณ มีปริมาณนักท่องเที่ยว 0.645 ล้านคน