“จีน” ถือเป็นตลาดที่ใหญ่สำหรับนักธุรกิจที่อยากจะเข้าไปเจาะตลาด เพราะด้วยประชากรที่มหาศาล จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเสนอสินค้าหรือบริการให้ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย

สำหรับในปี 2562 นี้ “มณฑลกวางตุ้ง” เป็นอีกพื้นที่สำคัญของผู้ประกอบการ SME ไทย และเป็นเป้าหมายของการส่งเสริมผลักดันสินค้าไทยเข้าไปจำหน่าย โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจจากการทำสำรวจ ดังต่อไปนี้

ความโดดเด่นของ “มณฑลกวางตุ้ง”

ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า “มณฑลกวางตุ้ง” มีความน่าสนใจอย่างไร “มณฑลกวางตุ้ง” มี GDP เป็นอันดับ 1 ของจีน โดยคิดเป็นมูลค่า 1.33 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบเท่ากับประเทศอันดับ 15 ของโลก และมีมูลค่ามากกว่า GDP รวมของ CLMV ถึง 4 เท่า

เช่นเดียวกับจำนวนประชากรที่มีถึง 111 ล้านคน มากเป็นอันดับ 1 ของมณฑลจีน มีรายได้ต่อหัว 12,010 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคนต่อไป อีกทั้งยังมีการนำเข้าสินค้าคิดเป็นมูลค่า 3.14 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้งนี้ “มณฑลกวางตุ้ง” ยังมีการคมนาคมที่สะดวก โดยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทั้งทางเรือ และทางอากาศ ซึ่งมีสนามบิน 4 แห่งที่สามารถรองรับผู้โดยสารมากถึง 120 ล้านคน พร้อมทั้งมีท่าเรือ 3 แห่ง เพื่อรองรับการขนส่งสินค้า

ปัจจัยสนับสนุนการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย

“มณฑลกวางตุ้ง” ถูกวางให้เป็นเมืองต้นแบบการค้าแบบอีคอมเมิร์ซแบบข้ามพรมแดนจำนวน 4 เมือง และมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการยกเว้นวีซ่าเป็นเวลา 144 ชั่วโมง หรือ 6 วัน ไม่เพียงเท่านั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สนับสนุนให้สินค้าไทยเข้าไปตีตลาดอีก ทั้งในเรื่องความต้องการสินค้านำเข้าที่หลากหลาย มากถึง 938 รายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรไทยที่นิยม ซึ่งหากมองถึงศักยภาพแล้ว ไทยมีความสามารถเพียงพอที่จะผลิตสินค้าให้ได้ตามความต้องการของประชากรใน “มณฑลกวางตุ้ง” อยู่แล้ว

สินค้าไทยที่มีศักยภาพ

อย่างที่กล่าวไปว่า ประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะผลิตสินค้าตามความต้องการของ “มณฑลกวางตุ้ง” ซึ่งสินค้าที่เป็นที่ต้องการในตลาด ประกอบด้วย สินค้าเกษตร โดยเฉพาะ “ข้าว” ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ข้าวออร์แกนิค เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ยังมีการส่งออกไปตลาดของ “มณฑลกวางตุ้ง” ไม่มากนัก เช่น สินค้าวงจรอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์เชิงทัศนศาสตร์ และอุปกรณ์สื่อสาร

ส่วนสินค้าสินค้าที่ส่งออกไป “มณฑลกวางตุ้ง” ได้ดีอยู่แล้ว คือ มังคุด ลำไย ซึ่งจำเป็นต้องรักษามาตรฐานสินค้า หรือต่อยอดความสำเร็จต่อไปในอนาคต