เนื่องจากปัจจุบัน Social Network มีบทบาทสำคัญด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัยศรีปทุม และบริษัทพิเพิลมีเดีย จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำสื่อ Social Network ที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสื่อสารของหน่วยงานราชการกับประชาชนมากขึ้น

โดยหน่วยงานราชการสามารถใช้ Social Network ก่อให้เกิดประโยชน์ของตนเองได้ในหลายด้าน เช่นการใช้งาน Google Analytic เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารขององค์กร เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ในการ Clipping ข่าว  การใช้ www.Truesit.net  เพื่อดูข้อมูลสถิติผู้เข้าชม และการใช้ Facebook เพื่อเป็นหนึ่งช่องทางในการสื่อสารกับประชาชน ทั้งนี้ Facebook Page ข้อมูลและโพสต์ในหน้า นั้นเป็นสาธารณะ และโดยปกติแล้วผู้ใช้ Facebook จะเข้าถึงได้ ผู้เข้าชม ทุกคนสามารถถูกใจหน้า เพื่อเชื่อมต่อ และรับอัพเดตฟีดข่าวของหน้านั้นได้ ไม่มีขีดจำกัดจำนวนผู้ที่สามารถถูกใจหน้าได้ ด้านการสื่อสาร ผู้ดูแลหน้าสามารถแชร์โพสต์ภายใต้ชื่อของหน้าได้ โพสต์ในหน้าปรากฎในฟีดข่าวของผู้คนและเพื่อนของตนเองสำหรับหน้าของตนเอง และตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของหน้า เพื่อติดตามการเติบโตและกิจกรรมของหน้า

 ส่วนการใช้ Twitter  หน่วยงานรัฐควรใช้แอพพลิเคชั่นนี้ในนำเสนอข่าวประชาสัมพันธ์ เนื่องจาก ผู้เล่น Twitter สามารถกดติดตาม และเลือกรับข่าวสารที่ตนต้องการรับรู้ได้ ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่มีไว้เพื่อติดตามข่าวสารต่าง ๆ อยู่แล้ว การที่หน่วยงานรัฐมี Twitter จึงถือเป็นข้อดีในการนำเสนอข่าวสาร สำหรับการวีดีโอ ผ่านYoutube มีหนึ่งช่องทางการสมัครรับข้อมูล ที่ชื่อว่า Subscribe เป็นการกดติดตามเพื่อรับข้อมูลที่สนใจในการรับข้อมูลใหม่ ๆ สำหรับ Youtube นั้น ต้องไม่ลืมที่จะใส่ Tag และ Description ให้มากที่สุด และควรสร้าง Playlist โดยต้องไม่ลืมเพิ่ม Subscribe ต้องมีการนำVDO บน Youtube แชร์บน Social Media ให้มากที่สุด และที่สำคัญต้องสามารถนำ VDO มารันบนเว็บของหน่วยงานได้

ส่วนไลน์นั้น ยังไม่น่าสนใจเท่าไหร่เนื่องจาก ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง และเป็นการสื่อสารทางเดียว เหมาะสำหรับการประชาสัมพันธ์เท่านั้น ด้าน E-mail ควรเก็บข้อมูล E-mail จากประชาชนให้ได้มากที่สุด และมีการส่งข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังรวมถึง seeding ซึ่งองค์กรควรมี official Account สำหรับตอบคำถามบน pantip และควรติดตามข้อมูลข่าวสารจาก pantip ว่ามีสัมพันธ์กับหน่วยงานของเราหรือไม่ อย่างสม่ำเสมอ โดยใช้เครื่องมืออย่าง google/aleart

คุณอุดม ไพรเกษตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเพิลมีเดียให้ความเห็นในการทำ โซเชียลมีเดียว่า “คำถามที่ผมมักถูกถาม คือ การทำโซเซี่ยลมีเดียแล้ว จะเป็นช่องทางที่ทำให้เราถูกต่อว่ามากขึ้นหรือไม่ แล้วเราควรทำอย่างไร?

 คำตอบของผมคือ คุณชอบโดนต่อว่า แล้วคุณไม่มีโอกาสได้รับรู้หรือโต้ตอบใด ๆ เลย กับการโดนต่อว่าแล้วคุณรับรู้ อีกทั้งหากไม่ใช่ความจริงคุณยังสามารถชี้แจงได้ ที่ผมต้องการบอกคือ บนโลกออนไลน์นั้นกว้างขว้างอย่างมาก หากเขาไม่ได้ต่อว่าคุณใน พื้นที่ของคุณเอง เขาก็มีช่องทางอื่นในการต่อว่าอยู่ดี ซึ่งคุณอาจไม่มีโอกาสได้ชี้แจงหรือเกิดการปรับปรุงใด ๆ เลย ผมจึงขอแนะนำให้คุณเปิดประตูบ้าน เพื่อให้เขาได้เข้ามาสื่อสารกับคุณได้โดยตรง และหากคุณมีความโปร่งใสพอ คุณอาจไม่ต้องชี้แจงใด ๆ เลย เนื่องจากจะมีผู้ที่รับรู้ความจริง และรักในองค์กรของคุณจะมาตอบกลับข้อกล่าวหาเหล่านั้นเอง”

สำหรับดัชนีชี้วัดการมีส่วนร่วมของประชาชน องค์การสหประชาชาติเป็นผู้วัด ปี 2010 อยู่ในอันดับที่ 110 จากทั้งหมด 192 ประเทศ (ระดับคะแนน = 0.0857) ปี 2012 อยู่ในอันดับที่ 48 จากทั้งหมด 193 ประเทศ (ระดับคะแนน = 0.3158) แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยได้เล็งเห็นความสำคัญกับการเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชนผ่านช่องทางการใช้สื่ออิเล็กทรนิกส์มากขึ้น (สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน), 2555)

 ผลการสำรวจของสำนักสำนักสิถิติแห่งชาติ ปี 2555 หน่วยงานของรัฐใช้ Social Network เพื่อประชาสัมพันธ์งาน/กิจกรรมของหน่วยงานร้อยละ 91.8 ใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับประชาชน ร้อยละ 69.7 และเป็นช่องทางสำหรับให้บริการร้อยละ 36.9 ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการหรือขั้นตอนต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่การรับข้อมูลการปฏิบัติงาน การร่วมแสดงทัศนะความคิดเห็นการร่วมเสนอปัญหา และความต้องการของประชาชน การร่วมคิดแนวทางแก้ไขปัญหา การร่วมในกระบวนการตัดสินใจ การร่วมในการดำเนินการและร่วมติดตามประเมินผล รวมทั้งการร่วมรับผลประโยชน์ จากสถิติของ Google ผู้ชมจะคลิ๊กในหน้าแรกของการค้นหาบน Google 89% และ 42% จากคลิ๊กบน Link 2อันดับแรก ส่วนอันดับที่ 3 – 10 จะมีคนคลิ๊ก 47% ที่สำคัญหากข้อมูลเกี่ยวกับองค์ไม่สามารถสืบค้นได้โดยง่าย องค์กรจะขาดโอกาสในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างมาก

ดังนั้นนอกจากภาคธุรกิจแล้ว Social Network ยังมีความสำคัญ และเป็นประโยชน์ ต่อหน่วยงานราชการในการเข้าถึงประชาชน การมีเครื่องมือสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตอยู่ในมือตนเอง ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยในการประชาสัมพันธ์องค์กรแล้ว ยังช่วยในด้านของการลดข่าวลือเสียหายได้อีกด้วย