หากคิดจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ต้องหมั่นสังเกตช่องทางกาตลาด และความต้องการของกลุ่มลูกค้า อย่างเรื่องราวของคุณวิทยา อัศวสุวรรณกูล ที่ผันตัวเองจากการซื้อ-ขายโมเดลญี่ปุ่นมาเป็นนักขายมือทองผ่านตลาดออนไลน์อีเบย์ ด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นไอเดียเก๋ กับการใส่ใจรายละเอียดสินค้า และการบริการลูกค้า จนได้ใจลูกค้าจากทั่วโลก

ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นนักขายมือทองผ่านตลาดออนไลน์อีเบย์ได้กว่า 12 ปีนั้น แต่ก่อนคุณวิทยา อัศวสุวรรณ ได้เริ่มต้นด้วยการซื้อโมเดลญี่ปุ่นจากมาบุญครองมาแปะขายทางอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้างรายได้เสริมระหว่างที่กำลังเรียนปริญญาตรี ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กระทั้งหลายปีต่อมาทดลองเปิดตลาดใหม่บนอีเบย์ ด้วยสินค้าที่แตกต่างไปจากเดิม โดยมุ่งทำตลาดสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับและรองเท้า จนมาพบว่า ตลาดเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่นของสตรีมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นโอกาสอันสำคัญที่จะเข้าก้าวสู่หน้าเว็บไซต์อย่างเต็มตัว

ฉะนั้นตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา จึงตัดสินใจดำเนินธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่นสตรีผ่านทางอีเบย์ เพราะเป็นช่องทางการค้าที่เชื่อมต่อได้หลายประเทศ โดยมีภรรยารับหน้าที่เป็นคนคิดแบบ พร้อมกับนำประสบการณ์และสไตล์เสื้อผ้าต่างๆ ที่คาดว่าน่าจะทำตลาดได้มาออกแบบให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าแต่ละประเทศ และนับว่าการขายผ่านร้านค้าอีเบย์ได้มีลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเลือกซื้อ เลือกประมูลสินค้าอย่างไม่ขาดสาย ด้วยดีไซน์เสื้อผ้าที่ดีเยี่ยม บวกกับคุณภาพฝีมือการตัดเย็บที่ปราณีต และยังจับจ่ายได้ในราคาประหยัด โดยเฉพาะสาว ๆ แฟชั่นนิสต้าในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และรัสเซีย ล้วนเป็นลูกค้าประจำกันทั้งนั้น

นอกจากการขายเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านตลาดออนไลน์อีเบย์เป็นงานอดิเรก เพื่อช่วยสร้างรายได้เสริมระหว่างเรียนแล้ว คุณวิทยายังได้ทำงานพาร์ทไทม์เป็นเซลส์ขายกาวอุตสาหกรรมไปพร้อม ๆ กันด้วย หลังจากที่จบการศึกษาแล้วมีประสบการณ์สะสม ทั้งทางด้านระบบและเทคนิคการขายบนอีเบย์มามากพอสมควร จึงทำให้กลายเป็นนักขายมือทองของอีเบย์ในที่สุด ต่อมาจึงเริ่มทดลองขายสินค้าที่มีสัดส่วนกำไรสูงขึ้น เช่น เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิง เพราะว่ายังมีสินค้าหลายประเภทที่มีศักยภาพทำกำไรสูงบนตลาดออนไลน์อีเบย์ และหลังจากที่ขายเสื้อผ้าผ่านอีเบย์แล้ว ทำให้มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ จึงตัดสินใจขยายตลาดด้วยกลยุทธ์ “น้ำขึ้นให้รีบตัก” โดยก่อตั้ง บริษัท อัศวสุวรรณกูล อินดรัสเตรียล จำกัด ขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ดังนั้นการดำเนินธุรกิจอีเบย์ในรูปของบริษัทสามารถเอื้อต่อการจัดหาทีมงานเสริม เพิ่มความยืดหยุ่นในการกระจายหน้าที่ความรับผิดชอบต่าง ๆได้ดี ทั้งยังช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับในเรื่องของกระบวนการทำงานนั้น โดยปกติคุณวิทยาจะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการตลาดบนอีเบย์ทั้งหมด ซึ่งหน้าที่ของภรรยาคือ จะช่วยในเรื่องการออกแบบสินค้าในสไตล์ต่าง ๆ ที่สามารถดึงดูดใจลูกค้าได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีทีมช่างตัดเย็บโดยเฉพาะ เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพชั้นสูง เพราะฉะนั้นการทำงานทั้งหมดต้องแข่งขันกับเวลาเป็นสำคัญ  ซึ่งการตัดสินใจตั้งบริษัทในครั้งนี้ จึงเป็นหนทางที่จะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น โดยจ้างพนักงานเพิ่มเติมมาแบ่งเบาหน้าที่ของตนเอง จึงทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการขอลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด จนกระทั่งทุกวันนี้มียอดขายต่อเดือนสูงถึง 400 ชิ้น และมีทีมงานคอยดูแลสินค้าบนเว็บไซต์อีเบย์ประเทศต่าง ๆ เฉลี่ยวันละราว 200 ชิ้น

ซึ่งคุณวิทยาพูดถึงการให้บริการแก่ลูกค้าว่า การให้บริการด้วยความเต็มใจ และเต็มที่กับลูกค้า จะสร้างความประทับใจได้ดีที่สุด และสามารถดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้าได้อีกด้วย อย่างในกรณีนี้ ถ้าหากสินค้าเป็นเดรสทั้งแบบยาวและแบบสั้น ซึ่งเป็นงานฝีมือแฮนด์เมดตัดเย็บกันทีละชิ้น บางครั้งลูกค้าหลายคนจึงต้องการให้แก้ไขชุดให้พอดีตัว หรือสั่งตัดเป็นพิเศษ หรือบางโอกาสก็เคยมีลูกค้าต้องการให้ตัดชุดสำหรับเพื่อนเจ้าสาวให้ โดยจะใช้เนื้อผ้าที่มีโทนสีและลวดลายเดียวกัน แต่อาจจะตัดเย็บออกมาเป็นหลาย ๆ แบบ และในบางทีลูกค้าก็ต้องการคำปรึกษาว่าแบบไหน สไตล์ไหน ที่จะเข้ากับรูปร่างของเขามากที่สุด ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว การรับงานทำนองนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ช่วยให้เรามีลูกค้าเพิ่มพร้อมกันหลาย ๆ คนในคราวเดียว เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกค้าเหล่านี้ก็จะกลับมาสั่งซื้อสินค้ากับเราใหม่ เมื่อเขาต้องการเดรสเก๋ ๆ สำหรับใส่ไปงานสำคัญ ดังนั้นจึงต้องใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับงานเพิ่มมากขึ้น เก็บข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าให้มากที่สุด เพื่อให้สามารถตัดเย็บเสื้อผ้าทุกชิ้นออกมาได้พอดีกับตัวลูกค้า ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจในบริการที่ของเราเป็นอย่างมาก

นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทมา ทางทีมงานทุกส่วนยังคงมุ่งเน้นที่การจำหน่ายสินค้าเฉพาะบนเว็บไซต์อีเบย์ในประเทศต่างๆ เท่านั้น ซึ่งอีเบย์นับว่าเป็นช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงมากสำหรับธุรกิจ SME ไทย โดยกลยุทธ์สำคัญ 2 ประการที่จะช่วยผลักดันการขยายฐานลูกค้าบนอีเบย์ให้กว้างขึ้น ก็คือ การจัดทำประกาศขายสินค้า (Listing) ที่สวยงาม ดึงดูดใจผู้พบเห็นให้เข้ามาเยี่ยมชมร้านค้าอีเบย์ของตนเอง และความสามารถในการขายถือว่าให้ประสบสำเร็จไปได้ด้วยดี หากเมื่อลูกค้าส่งเมล์มาสอบถามเกี่ยวกับสินค้า นั่นแสดงว่าลูกค้าเริ่มสนใจสินค้าของเราแล้ว