กระทรวงการคลังรับข้อเสนอตั้งกองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF ) ส่งเสริมการออม รองรับสังคมผู้สูงอายุ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

กระทรวงคลัง - 7 ส.ค.62 นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) พร้อมด้วยผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เข้าหารือกับนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง เกี่ยวกับแนวทางการจัดตั้งกองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) แทนกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งจะครบกำหนดภายในสิ้นปีนี้

นายไพบูลย์ ระบุว่า นายอุตตม มอบหมายให้ สศค. และสภาธุรกิจตลาดทุนไทยศึกษาเพิ่มเติม ข้อเสนอรูปแบบกองทุน SEF พร้อมให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี กำหนดเงินลงทุนไม่เกินร้อยละ 30 ของรายได้ แต่ไม่เกิน 250,000 บาทต่อปี อายุถือครองกองทุน 7 ปี และยังกำหนดให้กองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) ต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มเน้นธรรมาภิบาล ดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาล รวมแล้วสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของเงินกองทุน

โดยรัฐมนตรีคลังเห็นด้วยในหลักการ เพราะเป็นแนวทางส่งเสริมการออม ตอบรับสังคมผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันยังลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จากการปรับเพดานการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท ที่ถูกมองว่าเอื้อคนรวยผู้มีรายได้สูง เมื่อกำหนดเพดานลงทุนไม่เกินร้อยละ 15 ส่งผลให้คนระดับกลาง ผู้มีเงินเดือนลงทุนได้น้อย แต่จากนี้ไปผู้มีรายได้น้อยจะเข้ามาเข้ามาซื้อกองทุน SEF ได้มากขึ้น เพื่อสะสมเงินออมระยะยาว

นอกจากนั้นยังได้หารือแนวคิดการจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช) ซึ่งนายอุตตมเห็นด้วยในหลักการเพื่อส่งเสริมการออมในอนาคต โดยเห็นว่า บริษัทเอกชนที่มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่แล้ว ก็ให้ดำเนินการต่อไป ไม่ต้องมาจัดตั้งเป็นกองทุนใหม่ เพื่อเข้าเป็นสมาชิก กบช.

รวมถึงการบริการเงินกองทุนก็ให้ขึ้นกับแต่ละนายจ้างที่จะดำเนินการว่าจ้างผู้จัดการกองทุนเอง ไม่จำเป็นต้องนำมารวมกับภายใต้สำนักงานใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น ซึ่งรายละเอียดยังอยู่ในร่างพระราชบัญญัติ กบช. ที่เตรียมเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) จึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะยืนยันร่างเดิมหรือแก้ไขปรับปรุงใหม่ตามที่ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเสนอไป