วันจันทร์, เมษายน 29, 2567

“กสิกรไทย” จับมือ “ออมสิน” ใช้ ATM ร่วมกัน ฟรีค่าธรรมเนียม เริ่ม 8 พ.ย.62

by Anirut.j, 6 พฤศจิกายน 2562

ธนาคารกสิกรไทย จับมือ ธนาคารออมสิน” ร่วมโมเดลเอทีเอ็มสีขาว ให้บริการครอบคลุมมากขึ้น ฟรีค่าธรรมเนียม ไม่จำกัดจำนวนครั้ง นำร่อง 5 จังหวัด เริ่ม 8 พ.ย.62 -30 เม.ย. 63

วันที่ 6 พ.ย.62 ณ ธนาคารกสิกรไทย สำนักพหลโยธิน นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมลงนามความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มระหว่างสถาบันการเงินเฉพาะกิจกับธนาคารพาณิชย์ครั้งแรกในประเทศไทย

เพื่อการบริหารจัดการเครื่องเอทีเอ็มในอนาคตร่วมกัน และสานต่อนโยบายเครื่องเอทีเอ็มสีขาวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในการใช้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

 

 

ทั้งนี้ จะมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้กับลูกค้า ครอบคลุมการถอนเงินสด สอบถามยอดเงิน และการโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตร โดยลูกค้าของแต่ละธนาคารจะสามารถทำธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็มของอีกธนาคารหนึ่งเสมือนใช้บริการของธนาคารที่ลูกค้าถือบัตร ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 – 30 เมษายน 2563 โดยธนาคารกสิกรไทยจะยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างธนาคารทันทีที่ลูกค้าทำรายการ ขณะที่ธนาคารออมสินจะคืนค่าธรรมเนียมที่ถูกเรียกเก็บให้กับลูกค้าในวันถัดไป

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ความร่วมมือในวันนี้ของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารออมสินเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการเอทีเอ็มสีขาว หรือ White Label ATM ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคาร ในการใช้บริการที่เครื่องเอทีเอ็ม จากการมีเครือข่ายเอทีเอ็มที่ให้บริการครอบคลุมในพื้นที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์กับธนาคารที่จะลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน การบริหารจัดการเอทีเอ็ม การบริหารจัดการเงินสด และช่วยให้จัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารออมสิน จะสามารถใช้บริการทั้งการถอนเงิน สอบถามยอด และโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตรที่เครื่องเอทีเอ็มของทั้ง 2 ธนาคาร โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างธนาคารและทำธุรกรรมได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สำหรับการทำธุรกรรมในจังหวัดเดียวกัน จากเดิมที่ลูกค้าต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างธนาคารเมื่อใช้บริการตั้งแต่รายการที่ 5 ภายในเดือนเดียวกัน

ส่วนการทำธุรกรรมข้ามจังหวัดสำหรับโครงการนี้ การถอนเงินสดจะคิดค่าธรรมเนียมลดลงเหลือ 15 บาทต่อรายการ การโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตรลูกค้าธนาคารกสิกรไทยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ส่วนลูกค้าธนาคารออมสินคิดค่าธรรมเนียมลดลงเหลือ 15 บาทต่อรายการ โครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 – 30 เมษายน 2563

ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การให้บริการทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มในประเทศไทย มีมานานหลายสิบปี ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละแห่งต่างมีต้นทุนในการบริหารจัดการ แต่จากความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของธนาคารสามารถเข้าถึงและใช้บริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมกัน

นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างเป็นต้นแบบเพื่อรองรับการให้บริการเครื่องเอทีเอ็มกับลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็กที่ไม่ต้องการลงทุนเครื่องเอทีเอ็ม หรือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ต้องการลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนในการให้บริการเครื่องเอทีเอ็มในอนาคต

“สำหรับระยะแรกความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มระหว่างธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทย จะนำร่องในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร นครพนม ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทยมีเครื่องเอทีเอ็มในพื้นที่ 5 จังหวัดดังกล่าว เกือบ 400 เครื่อง และในระยะต่อไปของการให้บริการจะขยายพื้นที่ทั่วประเทศ

ซึ่งธนาคารออมสินมีเครื่องเอทีเอ็มมากกว่า 7,000 เครื่อง เมื่อรวมกับเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยที่มีกว่า 10,000 เครื่อง จะถือว่ามีจุดบริการมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ทั้ง 2 ธนาคารจะร่วมมือกันพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการให้บริการที่ครอบคลุมและอำนวยความสะดวกสบายแก่ลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคารมากยิ่งขึ้น” ดร.ชาติชาย กล่าว

 


Mostview

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line