เพราะในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนบนออนไลน์ คนส่วนใหญ่จะมีมือถือหรือสมาร์ทโฟนเป็นปัจจัย 5 ที่ขาดไม่ได้ จนบางครั้งการอยู่กับสมาร์ทโฟนมากๆ ส่งผลให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว นอนไม่หลับหรือหลับยาก ยิ่งบวกกับพฤติิกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ตรงเวลาก็ยิ่งส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้า และมีอาการผิดปกติจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

ผู้ใช้ทวิตเตอร์ พริ้ว พาเพลิน* ทวิตเรื่องราวจากประสบการณ์ของตัวเองที่ตนเองพักผ่อนไม่เพียงพอ จนระบบร่างกายรวนพูดไม่รู้เรื่อง ลืมง่าย หงุดหงิดง่าย มือเท้าชา ลามมาที่ต้นแขน จนถึงขั้นต้อง MRI สมองในที่สุด เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจคนพักผ่อนน้อยให้หันกลับมาดูแล รัักษาสุขภาพกันมากขึ้น ดังต่อไปนี้ 

เราจะมารีวิวผลจากการนอนน้อย
และพักผ่อนไม่เป็นเวลา กินข้าวไม่เป็นเวลา ทำให้ระบบร่างกายรวนมากๆ บางคนอาจจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป
แต่เราจะพูดในส่วนของเราแล้วกันเนอะ ว่าทำไมเราถึงต้องทำ CT scan , MRI ในส่วนของสมอง

ตอนแรกเรารู้สึกว่าเรานอนไม่ค่อยหลับ พยายามไม่เล่นมือถือ ปิดไฟแล้วก็ยังไม่หลับ ชอบสะดุ้งตื่นตลอด บางทีหลับง่ายมาก แต่ก็ตื่นง่ายด้วย ได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆ ก็คือตื่นแล้ว แล้วพอตื่นก็หลับต่อยากมาก เป็นแบบนี้ติดกันมา 4-5 เดือน กินยาแก้แพ้ยังไม่หลับเลย ก็เลยช่างแม่งไป ไม่นอนก็ไม่นอนวะ

หลังๆเริ่มสังเกตตัวเองว่า พูดไม่รู้เรื่อง ลืมง่าย หงุดหงิดง่าย กลายเป็นคนสองอารมณ์ แล้วก็เริ่มมีอาการเบลอ เหมือนคนไม่มีสติ
ไม่สามารถจำอะไรได้นานๆเหมือนเมื่อก่อน เช่นง่ายๆเลย พ่อโทรมาคุยอะไรกับเราสักอย่าง แล้วมีคนเรียกขัดจังหวะ เราจะลืมสิ่งที่พ่อพูดกับเราทันที แบบลืมไปเลย

มันไม่ใช่ลืมแป๊ปๆนะ ลืมจริง เราต้องให้คนที่คุยกับเราพูดทวนอีกรอบ เราย้ำคิดย้ำทำมากๆ ทุกอย่างช้าไปหมด หนักสุดคือสมอง เวลาคุยกับใครไม่เข้าใจ จะปวดหัวมากทันที แบบในหนังเลย ที่เวลาคุยกันอยู่ คนเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับสมองมันจะจี๊ดขึ้นหัว
ถ้านึกไม่ออก นึกถึงตอนกินสเลอปี้เย็นจัด แบบนั้นเลย

หลังจากนั้นเราก็คิดแหละว่า นอนน้อยแน่ๆ แต่พอได้พักมันก็หาย แต่มันไม่ใช่แบบนั้นจ้า
พอเราไม่สบาย ร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันเลย เพราะมันไม่แข็งแรงแล้ว หมอบอกแบบนี้
เราเป็นไข้มา 7วัน วันที่8 อยู่ดีๆก็ปวดหัวร้าวไปถึงหูจนลามมาที่คอ นึกว่าเป็นหวัดลงหู แต่พอตรวจแล้วไม่ใช่ เกมส์เลยกูทีนี้

จากเดิมเราเป็นหมอนรองกระดูทับเส้นประสาทอยู่แล้ว แต่อาการที่เพิ่มขึ้นไม่หายเลยตลอด2เดือนคือ มือเท้าชา ลามมาที่ต้นแขน และแขนก็หนักสุดตรงที่ล้ามาก เหมือนคนไปยกเวทตลอดเวลา ไม่มีแรง จับของบางทีก็หล่น หมอให้กำนิ้วหมอไว้แน่นๆ เรายังกำไม่ได้เลย คือข้างขวาอ่อนแรงมาก เหมือนคนฉีดยาชาไว้ตลอด

และเราก็ปวดหัวมากเกินกว่าที่จะบอกว่าเป็นไมเกรน หวีผมยังหวีไม่ได้เลย เจ็บหัวไปหมด แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก อาการคือล้านแปดอย่าง หมอบอกว่าสุ่มเสี่ยงว่าจะเกี่ยวกับเส้นประสาทที่เลือดไปเลี้ยงไม่พอ ก็เลยให้ทำ CTscan สมองดู จะได้รู้ว่าเป็นอะไร บอกเลยว่ากลัวมาก จะร้องไห้เลย

พอเราไปทำCTscan อยู่ในเครื่องนั้น10นาที ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ก็กังวลแหละว่าจะเป็นอะไรมั้ย และพอผลออกมาเขาบอกว่า เจอจุดดำๆ แต่ไม่แน่ใจว่าเส้นเลือดมันตีบมั้ย เพราะมันเล็กมากมองไม่ชัด แต่ดูจากอาการคือเหมือนสมองขาดเลือด เพราะซีกขวาของร่างกายเราชาแค่ข้างเดียว

อายุเรายังน้อย หมอบอกเลยว่าไม่น่าจะเป็นอัมพาตครึ่งซีก เพราะปากเรายังไม่ได้เบี้ยว ไม่ได้ชา ยังพูดได้อยู่ปกติ แต่ CTscan มันไม่ละเอียดมาก เลยให้เราทำ MRI เพื่อความชัวร์ จะได้รู้ว่าก้อนสีดำเล็กๆในสมองมันคืออะไร จะใช่เส้นเลือดสมองตีบมั้ย เราเลยต้องยอมทำ จุดนั้นเครียดจนร้องไห้เลย

MRI คือที่สุดของที่สุด อึดอัดมาก อีเหี้..ใครกลัวที่แคบบอกเลยว่า อยู่ไม่ได้ ขนาดเราไม่ได้กลัว อยู่ในนั้นชั่วโมงครึ่ง เกือบไม่ไหว อึดอัดมาก ขยับตัวไม่ได้ เสียงเครื่องก็ดัง ออกมาคือครึ่งตัวนี่เหงื่อออกไปหมด ไม่ชอบมาก กลัวแลัว อยากนอนตั้งแต่สองทุ่มเลยตอนนั้นอะ ไม่ไหวจริง

แล้วพอผลออกมาก็คือ ไม่เจออะไรที่ผิดปกติในสมอง แต่มีเส้นประสาทที่คอมันเคลื่อนตัวผิดปกติ เลยอาจจะทำให้มือเท้าชา และการนอนน้อยก็มีส่วนที่ทำให้มือเท้าชาได้ เพราะระบบเลือดในร่างกายไหลเวียนไม่ดี พอเส้นประสาทเส้นนึงมีปัญหา หมอบอกว่ามันก็รวนไปหมดเลย

เรานอนดึกมาก ตี 3-4 ตลอดเลย หลายเดือนแล้ว พยายามนอนก็ไม่หลับ หมอถามว่าเคยฝันแบบเอาเรื่องที่คิดในใจมาคิดต่อกลางดึกใช่มั้ย เราก็บอกว่าใช่ หมอเลยบอกว่า เพราะอะไรแบบนี้ทำให้สมองเราใช้งานตลอดเวลา ไม่ได้พัก เหมือนนอนก็คิด ฝันบ่อย ตื่นมาจำความฝันได้ ก็คิดอีก กลายเป็นสมองตื่นตลอดมันเลยพัง

ตอนนี้ในส่วนของมือเท้าชา เราต้องทำกายภาพและกินยาไปเรื่อยๆ ในส่วนของสมองหมอบอกว่าเราเป็นโรคเครียดและแพนิกง่ายมาก สภาวะแวดล้อมรอบข้างมีส่วนมากๆ ที่จะทำให้เรากลายเป็นคนเครียดง่ายโดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่ทำให้สมองเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคเครียดโดยไม่รู้ตัวก็คือ
1.งานเยอะจนเกินไป ทำให้สมองไม่ได้พัก คิดแต่เรื่องงานจนสติไม่สนใจเรื่องอื่น
2.เพื่อน แฟน คนรอบตัว พูดจาทำให้เราเครียดง่าย ไม่ฟังเรา จนเราต้องเก็บมาคิดคนเดียว
3.สถานที่อยู่ ไม่ปลอดโปร่ง ทำให้เราอึดอัดง่าย
(หมอบอกเรา)*

จริงๆมันเยอะกว่านี้มากๆค่ะ ดีเทลละเอียดมาก แต่จำขึ้นใจเลยว่าต้องกินยาแก้เครียดตลอด6เดือน ถ้าเครียดสะสมอาจจะเป็นซึมเศร้าได้ ต้องคอยใช้ยาเรื่อยๆ
และการเล่นโซเชียลส่งผลทำให้เราเครียดมากกว่าปกติด้วย คุณหมอบอก เพราะฉะนั้นเบาลงกันหน่อยน้า พักผ่อนเยอะๆ ออกกำลังกายช่วยได้ค่ะ

คนถามเรื่องค่าใช้จ่ายเยอะมาก
ของเรามีประกันนะคะ แต่ต้องสำรองจ่ายเพราะเขาต้องตรวจสอบให้ละเอียด เพราะอายุประกันเราไม่ถึง2ปี เขาต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าก่อนทำประกันเราไม่เคยเป็นโรคร้าย การเป็นอะไรเกี่ยวกับสมองมันค่อนข้างเซ้นซิทีฟนิดนึง อยากให้ทุกคนทำประกันสุขภาพไว้เลยค่ะ

ค่าใช้จ่ายนะคะ พริ้วนอนรพเอกชน
เอาแค่หลักๆที่แพงมากๆก็คือ
CTscan (8000)
MRI (27000)
รวมค่ายา + กายภาพบำบัดและค่าตรวจอื่นๆก็ (64000+฿)ค่ะ 
ถึงอยากให้ทำประกันไว้ นี่ขนาดมีประกันเขายังให้จ่ายไปก่อนแล้วค่อยไปเบิกคืนทีหลัง;-; แพงมากทุกคน อย่าเจ็บอย่าป่วยเลยนะ ไม่คุ้มเลย เปลืองเงินมาก

เราจะมารีวิวผลจากการนอนน้อย
และพักผ่อนไม่เป็นเวลา กินข้าวไม่เป็นเวลา ทำให้ระบบร่างกายรวนมากๆ บางคนอาจจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป
แต่เราจะพูดในส่วนของเราแล้วกันเนอะ ว่าทำไมเราถึงต้องทำCT scan , MRI ในส่วนของสมอง

— พริ้ว พาเพลิน* (@priwpriww) November 6, 2019