วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2567

การปรับตัวเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ หลังการล็อกดาวน์ของธุรกิจค้าปลีก

by Phongsak, 31 พฤษภาคม 2563

เมื่อรัฐบาลจีนออกมาตรการล็อกดาวน์ ธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างมากคือ ธุรกิจค้าปลีก ประเทศจีนเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบเป็นประเทศแรกจากมาตรการการปิดเมือง และธุรกิจห้างร้านต้องปิดตัวเป็นเวลากว่า 3 เดือน ก่อนที่สถานการณ์จะคืนสู่ปกติ

สถานการณ์การปิดเมืองจากโควิด-19 นี้ ไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่ประเทศจีนต้องเผชิญกับโรคซาร์สเมื่อปี 2546 ร้านค้าปลีก รวมทั้งห้างสรรพสินค้าต้องหยุดกิจการชั่วคราว ทำให้เกิดธุรกิจอีคอมเมิร์ซขึ้นในประเทศจีน และทำให้ Alibaba และ JD.com ได้รับความนิยมอย่างมาก

จากวิกฤตที่ประเทศจีนประสบมานั้น มีแนวทางการปรับตัวที่น่าสนใจที่ประเทศอื่น ๆ อาจนำไปปรับใช้ได้ โดยนางสาวรู่เจีย หวาง หัวหน้าที่ปรึกษาทางธุรกิจ บริษัท ThoughtWorks ประจำประเทศจีน ได้ให้ข้อมูลผ่านทาง webinar เรื่อง Innovation in times of adversity – learning from Chinese retailers ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจดังนี้

 

 

ต้องมองหาวิธีใหม่ ๆ

ในการปรับตัวนั้น ต้องมองหาวิธีการใหม่ ๆ ที่ใช้แข่งขันในตลาดเดิม รวมทั้งปรับเปลี่ยนสินค้าและบริการเพื่อหาตลาดใหม่ ผ่านช่องทางการขายใหม่

ธุรกิจโรงแรม ก็ยังคงสามารถจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มได้ และอาจจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบเดียวกับที่โรงแรมใช้อยู่ที่มีอยู่ เช่น เฟอร์นิเจอร์ หรือผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้าน ผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะต้องมีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัยและใช้ได้ง่ายเพื่อความสะดวกของลูกค้า

 

 

สร้าง Content ที่น่าสนใจ

เมื่อสินค้าและบริการเข้าสู่อีคอมเมิร์ซ ต้องสร้าง content ที่น่าสนใจ สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ Shoppertertainment เป็นวิธีการหนึ่งที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี เช่น การไลฟ์สตรีม แฟชั่นบางแบรนด์ในประเทศจีน ให้พนักงานเข้าร้านและไลฟ์สตรีมแนะนำสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของแบรนด์ ซึ่งสามารถเพิ่มยอดขายได้

การโปรโมทและขายสินค้าบริการ ผ่านการ Shoppertainment สามารถทำได้หลายรูปแบบและเชื่อมโยงได้กับธุรกิจบันเทิงต่าง ๆ เช่น แฟชั่น, การท่องเที่ยว และไนท์คลับ โดยสร้างบรรยากาศดีเจเปิดแผ่นในไนต์คลับ รวมทั้งการใช้ VR (virtual reality) เพื่อดึงความสนใจของลูกค้า

 

 

Data is king

ธุรกิจต้องจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า ใช้ข้อมูลเพื่อนำมาสื่อสารกับลูกค้า รวมทั้งวิเคราะห์ลูกค้าปัจจุบัน และความเสี่ยง รวมทั้งโอกาสในอนาคตการมีพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ที่สามารถเพิ่มคุณค่าให้ธุรกิจที่ทำอยู่เดิมได้ เป็นการเพิ่มรายได้ เช่น Starbucks ในประเทศจีน ซึ่งรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของ Alibaba เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ซึ่งตรงกับกลุ่มลูกค้าของตน Starbucks จึงได้ร่วมมือกับ Alibaba ในการจำหน่ายและส่งผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไปสู่มือของลูกค้า

 

 

ทุกวิฤตมีโอกาส

ในทุกวิฤตทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ผ่านมา มักมีโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้น เราสามารถใช้โอกาสนี้ในการทดลองตลาด ปกติแล้วหากมีนวัตกรรมใหม่ ลูกค้ามักมีความอดทนรอ เพราะฉนั้น อย่ากลัวที่จะลองสิ่งใหม่ หรือ ตลาดใหม่ และเทคโนโลยีจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจคุณได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดเมื่อรัฐปลดล็อคดาวน์ และธุรกิจสามารถกลับมาเปิดกิจการได้

สิ่งที่แบรนด์ต่าง ๆ ต้องทำ คือ จัดกิจกรรมแคมเปญต่าง ๆ เพื่อดึงลูกค้ากลับเข้าร้าน และ เตรียมร้านให้พร้อมกับการกลับมาของลูกค้า ด้วยมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น เทคโนโลยี contactless ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงิน การสั่งอาหาร หรือ สั่งสินค้าภายในร้านผ่าน QR code และเทคโนโลยีที่แสดงให้ลูกค้าเห็นความสะอาดและปลอดเชื้อโรคทั้งภายในร้านค้า และพนักงานส่งอาหารหรือสินค้าเดลิเวอร์รี่ผ่านแอปฯ

เมื่อเตรียมกับการกลับมาของลูกค้าแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ธุรกิจค้าปลีกรวมทั้งห้างร้านต่าง ๆ ควรลงทุนในด้านเทคโนโลยี ในห่วงโซ่อุปทาน, ระบบนิเวศ และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มมูลค่าและโอกาสทางธุรกิจ


Mostview

คนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บสำหรับการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท

ภายในงาน KKP Financial Talk: Money Master #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้ ซึ่งมีการพูดถึงปัญหาและคำแนะนำให้กับ Sandwich Generation ผู้แบกภาระการดูแลทั้งคนรุ่นก่อน และรุ่นหลังไว้ ในขณะที่เศรษฐกิจไม่เกื้อหนุนให้พวกเขาได้สบายขึ้น

กล้าพอไหม! Airbnb เปิดให้เข้าพักบ้านลอยฟ้า มีลูกโป่งกว่า 8,000 ใบ โยงติดอยู่บนหลังคา

หากอยากจะทำอะไรตื่นเต้นต้องมาทางนี้ เมื่อ Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักได้เปิดตัวโปรเจคต์ “Icon” เพื่อสร้างประสบการณ์พักผ่อนให้กับลูกค้า เปลี่ยนสิ่งที่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ให้กลายเป็นความจริง

ซีพีออลล์ ทำรายได้ไตรมาส 1/2567 รวม 241,307 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 พบว่าบริษัทมีรายได้รวม 241,307 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท

SmartSME Line