หลังจากธุรกิจใน Citi Group ได้ประกาศถอดตัว "ธุรกิจลูกค้ารายย่อย" หรือ Retail Banking ออกจาก 13 ตลาดที่ครอบคลุมทั้ง เอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา ทำให้เป็นที่น่าจับตามองว่า ใครจะเป็นคนเข้าซื้อธุรกิจที่ประกาศขายออกมา

โดยล่าสุด มีการรายงานจาก Bloomberg โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่ระบุตัวตนจากต้นทางว่า การเสนอราคาสำหรับสินทรัพย์ลูกค้ารายย่อย (Retail Assets) ของ Citigroup ในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และไทย มีกำหนดจะเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคมนี้ ขณะที่ธุรกิจในอินเดียมีกำหนดในสัปดาห์หน้า

การขายดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อได้ขยายธุรกิจบัตรเครดิตระดับไฮเอนด์และธุรกิจความมั่งคั่ง (Wealth Business) ซึ่งการที่ธนาคารต่างๆ สนใจที่จะซื้อ เป็นเพราะค่าธรรมเนียมที่สูงมากกว่ารายได้จากดอกเบี้ย

ขณะเดียวกันการขายธุรกิจในเอเชียเกิดขึ้นในขณะที่ Citigroup ปรับโฉมธุรกิจโดยเน้นที่หน่วยที่ทำกำไรได้มากกว่า เช่น วาณิชธนกิจ และธุรกิจความมั่งคั่งซึ่งจะมีศูนย์กลางอยู่ที่ฮ่องกง ลอนดอน สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย Citigroup วางแผนที่จะระดมทุน 1.5 แสนล้านดอลลาร์ และจ้างพนักงาน 2,300 คนในเอเชียเพื่อการบริหารความมั่งคั่งภายในปี 2025

Bloomberg ระบุว่า DBS ของสิงคโปร์วางแผนที่จะยื่นข้อเสนอเข้าซื้อธุรกิจในอินโดนีเซียและไต้หวัน โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซีอีโอของ DBS กล่าวว่า ระดับเงินทุนของธนาคารสูงพอที่จะซื้อสินทรัพย์เพิ่มโดยไม่ต้องเพิ่มทุน และแสดงความสนใจในตลาดเอเชียหลายแห่ง ตัวแทนของ DBS ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

นอกเหนือจากการประเมินมูลค่าแล้ว แหล่งข่าวได้กล่าวกับ Bloomberg ว่า Citigroup จะประเมินข้อเสนอในแต่ละตลาดโดยพิจารณาจากประเด็นอื่นๆ เช่น การต่อต้านการผูกขาด การคุ้มครองงาน และกลยุทธ์

สำหรับในไต้หวัน คาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ราว 2 พันล้านดอลลาร์ DBS, Standard Chartered, Cathay Financial Holding Co. และ Fubon Financial Holding Co. คือกลุ่มผู้ที่เตรียมยื่นประมูล

ขณะที่ประเทศไทยนั้น Bloomberg เผยว่า บมจ.ธนาคารกรุงเทพ กำลังวางแผนที่จะยื่นข้อเสนอสำหรับสินทรัพย์ในไทยของ Citigroup ซึ่งอาจมีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6.68 หมื่นล้านบาท ขณะที่ บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก็สนใจที่จะเข้าประมูลเช่นกัน

ด้าน อินเดีย คาดว่าจะมีมูลค่าการขายประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ โดย Kotak Mahindra Bank Ltd. กำลังวางแผนที่จะประมูลสินทรัพย์ดังกล่าว ขณะที่ HDFC Bank Ltd. และ ICICI Bank Ltd. ก็กำลังชั่งน้ำหนักการเสนอราคาเช่นกัน

.