4 ตัวช่วยพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษขั้นเทพ

“พูดให้พอเข้าใจก็ใช้ได้แล้ว” เรามักจะได้ยินถึงคำพูดนี้จากปากคนเราอยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน สำหรับแนวทางการใช้ภาษาอังกฤษที่คนส่วนใหญ่นิยมพูดกัน ทั้งเอามาพูดกันในชีวิตการทำงานหรือกระทั่งพูดกันเล่นๆ หลายๆคนได้แนวคิดมาว่าการจะสื่อสารภาษาอังกฤษนั้นขอแค่ว่าเข้าใจคำศัพท์บางคำพอเป็นพิธีแล้วเอาไว้ใช้พูดกับชาวต่างชาติให้พวกเขาพอเข้าใจและคิดว่าเรากล้าพอที่จะพูดกับชาวต่างชาติแค่นั้นพวกเขาก็ยินดีกับเรา และดีใจที่เราพูดด้วยแล้วเหมือนกัน อันที่จริงแล้วแนวคิดนี้นั้น ... เป็นแนวคิดที่ผิดมหันต์ที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะต่อให้เราคิดว่าพูดให้พอคนต่างชาติเข้าใจได้ แต่ว่าก็อาจจะมีชาวต่างชาติหลายคนเช่นกันที่ไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เราสื่อสาร ฉะนั้นแล้วการที่เราจะมาศึกษาเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและมีความแตกฉานนั้นก็เลยกลายเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้ให้มากที่สุดยิ่งกว่าเดิมไปด้วยนั่นเอง แต่เราจะสามารถฝึกปรือภาษาอังกฤษของเราให้มีความแข็งแรงมากขึ้นและดูเชี่ยวชาญมากขึ้นได้จากแหล่งไหนบ้าง ซึ่งหากเรามองไปรอบๆดูแล้วนั้น เราสามารถฝึกฝนภาษาอังกฤษได้อย่างง่ายดายอย่างมากเลยทีเดียว

การดูภาพยนตร์ที่เป็น Sound Track ช่วยเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษ : การใช้สิ่งรอบตัวของเราอย่างเช่นแผ่นภาพยนตร์ DVD ที่หากว่าเป็นแผ่นที่มีรายละเอียดเป็นแบบ Full  แผ่น DVD สามารถเปลี่ยนเสียงพากย์ได้ เราจึงสามารถที่จะชมภาพยนตร์โดยตั้งค่าให้เล่นแบบเป็นเสียงพูดภาษาอังกฤษ แล้วเราลองเปิด Subtitle ที่เป็นภาษาไทยประกอบได้ เพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่ตัวละครกำลังพูดอยู่ได้ง่ายขึ้น แล้วพยายามลองแยกว่าประโยคที่เขาพูดแต่ละคำนั้นตรงกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่แปลผ่านออกมาเป็น Subtitle คำไหน ตัวอย่างของคนที่ใช้เทคนิคนี้มีอยู่มากมายอย่างเช่นอดีตนักฟุตบอลของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตกองหน้าชาวบัลแกเรียที่ไปค้าแข้งในประเทศอังกฤษ เบอร์บาตอฟนั้นไม่เก่งภาษาอังกฤษมาแต่แรก เขาเลือกที่จะใช้วิธีการดูภาพยนตร์เสียงภาษาอังกฤษแล้วฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษในลักษณะนี้มาตลอดนับตั้งแต่วันแรกที่มาเล่นฟุตบอลอาชีพในอังกฤษเลยนั่นเอง

การศึกษา Dialog ในการสนทนาภาษาอังกฤษเกี่ยวกับประโยคต่างๆ : การพูดภาษาอังกฤษนั้นไม่ใช่มีเพียงแค่การรู้จักคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณจะต้องรู้จักประโยคที่ใช้ในการพูดคุยเบื้องต้นที่เราสามารถนำมาใช้ได้ทันที ซึ่งประโยคที่ว่านี้ก็มีทั้งประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม และประโยคปฏิเสธ ในบรรดา Dialog หรือบทสนทนานั้นมีอยู่มากมายที่คนส่วนใหญ่หยิบยกมาใช้อย่างเช่น “Pardon me sir, do you know ? where the Admiral Hotel is ?” นี่คือการถามคำถามว่า “ขอประทานโทษนะครับ คุณพอรู้มั้ยครับว่าโรงแรมแอดมิรัลอยู่ตรงไหน ?”

การทำความเข้าใจกับ Tense 12 และกริยา 3 ช่อง : หลักสำคัญของการใช้ภาษาอังกฤษนั้นอยู่ที่คุณต้องมีความแม่นยำในการใช้ Tense ทั้ง 12 ชนิด แต่ก่อนหน้านั้นคุณจะต้องรู้จักการใช้งานกริยา 3 ช่องที่เอาไว้บอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว กำลังเกิด หรือทำท่าว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เป็น Simple , Past และ Future ซึ่งหากว่าทำความเข้าใจกับ 3 สิ่งนี้ได้ ก็จะสามารถไปเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งาน Tense 12 ได้โดยง่ายดายอีกด้วย

การศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสือสอบเข้าสถาบันต่างๆ : หนังสือสอบเข้าสถาบันต่างๆเช่น เตรียมอุดมศึกษา หรือเตรียมทหาร มักจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งการใช้ Grammar , Verb , Structure , Tense และ Dialog อัดแน่นไว้ค่อนข้างจะครอบคลุม เราจึงสามารถที่จะหยิบเอามาศึกษาได้เช่นกัน และนี่ก็คือแนวทางในการฝึกพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอังกฤษที่เราสามารถฝึกฝนและเรียนรู้เพิ่มเติมกันได้อย่างแน่นอน