กำลังเป็นข่าวที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง จากเหตุการผู้ก่อการร้าย บุกยิงนักท่องเที่ยวที่เกย์ไนท์คลับเมืองออแลนโด้ รัฐฟลอริดาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ราย  “ยูทูป” จึงปล่อยแคมเปญล่าสุด ออกสู่สายตาชาวโลก สร้างกลุ่มสังคม ขับเคลื่อนการรณรงค์ ผ่านช่องทางยูทูป ซึ่งถือเป็นการตลาดรูปแบบใหม่ ในประชากรกลุ่มเพศที่ 3 หรือรู้จักกันดี ในนามว่า ‘LGBT’ (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgendered) โดยโครงการดังกล่าว ได้เชิญชวนให้กลุ่ม ‘LGBT’ ร่วมแสดงตัวตน และความภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นชาว ‘LGBT’ นั่นเอง  ‘ยูทูป’ เจ้าพ่อสื่อรายใหญ่ ได้เคลื่อนไหวแคมเปญ ‘Proud to be’ เพื่อเจาะตลาดประชากรเพศที่ 3 โดยเฉพาะเลยทีเดียว เนื่องจากเหตุการณ์ก่อการร้าย อันแสดงให้เห็นถึงการเหยียดหยามเพศที่ 3 อย่างรุนแรง ‘ยูทูป’ จึงไม่รอช้า ร่วมต่อต้านการกระทำอันโหดร้าย และได้แสดงจุดยืนของตนเอง ในฐานะที่เป็นเครื่องมือการสื่อสารรายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง โดยวัตถุประสงค์ของกิจกรรม ได้ระบุว่า “#ProudToBe: Coming Together to Celebrate Identity” ซึ่งแปลว่า “มาร่วมฉลองความเป็นตัวเราร่วมกัน” นั่นเอง แน่นอนว่า มีการอัพโหลดคลิปวิดีโอ แสดงความรู้สึกของชาว ‘LGBT’ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างท่วมท้น ทั้งยังเล่าถึงความภาคภูมิใจ ที่ได้เกิดมาเป็นอย่างพวกเขา ทำอย่างพวกเขา และแสดงให้เห็นถึง พลังความรักแบบไม่มีเงื่อนไขระหว่าง ‘เพศ’ มาเป็นกำแพง นอกจากนี้ ยังเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของ ‘ยูทูป’ ที่แสดงจุดยืนว่า “ยูทูป เป็นพื้นที่ ซึ่งไม่ว่าใครก็ตาม สามารถเป็นเจ้าของได้ โดยไม่เกี่ยวข้องว่า พวกเขาจะเป็นใคร หรือพวกเขาจะรักใครก็ตาม นั่นคือเหตุผลที่วันนี้ เราต้องการเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยสนับสนุนทุกคน ให้ได้รับเกียรติ และจงภาคภูมิใจในตนเอง” พร้อมทั้งชวน ให้ร่วมให้ติดแฮชแท็ก #Proudtobe อีกด้วย   โดยสามารถสังเกตเห็นสัญลักษณ์ ‘รูปหัวใจสีรุ้ง’ในเว็บไซต์ยูทูป มุมซ้ายบน ข้างกับสัญลักษณ์ ‘YouTube’ โดยสามารถคลิ๊กเข้าไปรับชมคลิปวิดีโอของชาว ‘LGBT’ และร่วมแสดงความคิดเห็น ให้กำลังใจพวกเขาเหล่านั้นด้วยตัวคุณเอง นับว่า ‘ยูทูป’ เป็นสื่อเจ้าแรก ๆ ที่หันมาให้ความสำคัญกับตลาดประชากรกลุ่มที่ 3  รวมถึงพยายามผลักดันให้ประชากรกลุ่มดังกล่าว กล้าแสดงตัวตน ก้าวออกมาจากพื้นที่ในมุมที่ถูกจำกัดไว้ และพยายามสร้างสังคมแห่งความสดใส หลากหลาย และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน อาจสรุปได้ว่า ‘ยูทูป’ ได้พยายามยกระดับตัวเองอีกขั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ดึงความเห็นอกเห็นใจจากผู้คน ยอมรับความแตกต่าง แบ่งปันพื้นที่ให้ทุกคนโดยเท่าเทียม นับเป็นการสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์อย่างแท้จริง by : กัลย์วิตา จิราวิภูเศรษฐ์