CTH กำลังจะล่มสลาย จริงหรือ ?
by Smart SME, 6 กรกฎาคม 2559
โดย.....วิชิต เอื้ออารีวรกุล
กรรมการผู้จัดการ กลุ่มเจริญเคเบิลทีวี
หลายคนคงสงสัยว่า คุณวิชัย ทองแตง ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “นักปั้นดินให้เป็นดาว” และนักเล่นหุ้นมือระดับต้นๆของประเทศไทย มาเสียท่าให้กับการทำธุรกิจเคเบิลทีวี ในชื่อ CTH ได้อย่างไร ใครเป็นคนพาคุณวิชัย มาตกที่นั่งลำบากในวัย 70 ปี หรือคุณวิชัยอยากฝากผลงานชิ้นสำคัญ (The Last Master Piece) ก่อนวางมือไปเลี้ยงหลานเอง
ก่อนอื่นต้องบอกว่า คุณวิชัย ทองแตง เป็นเขยจังหวัดสมุทรสาคร ทุกวันนี้มีบ้านปลูกอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง และยังกลับบ้านไปนอนที่สมุทรสาครทุกวัน ในวันหยุดก็จะไปเดินจ่ายตลาด ที่ตลาดสดแม่กลอง ใส่กางเกงขาสั้น ลากรองเท้าแตะ เดินตามหลังคุณแม่บ้าน ถือตะกร้าเพื่อให้คุณแม่บ้าน เพื่อนำกลับไปทำอาหารรับประทานที่บ้านกับครอบครัว อย่างมีความสุขไม่เคยขาด
คุณวิชัย เกี่ยวข้องกับเคเบิลท้องถิ่นได้อย่างไร
ถัดจากบ้านคุณวิชัย ไม่เกิน 100 เมตร เป็นบ้านของ “คุณสุรพล ซีประเสริฐ” อดีตนายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ที่มีศักดิ์เป็น น้าเขยของคุณวิชัย ถึงตรงนี้ คงพอมองเห็นความเกี่ยวพันกันแล้วนะครับว่า คุณวิชัยจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจเคเบิลทีวีได้อย่างไร
ต้นเหตุมาจากเรื่องลิขสิทธิ์
คุณสุรพล เดิมมีอาชีพทำประมง เป็นไต้ก๋ง ออกเรือไปหาปลาในท้องทะเล เคยมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมประมง จังหวัดสมุทรสาคร และเคยเป็นเลขาธิการ สมาคมประมงแห่งประเทศไทย เป็นคนทำโครงการน้ำมันเขียว ให้กับชาวประมง เพื่อให้ชาวประมงทั่วประเทศ ได้ใช้น้ำมันในราคาถูก
คุณสุรพล เข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจเคเบิลทีวี เพราะทำเคเบิลท้องถิ่นอยู่ที่อำเภอกระทุ่มแบน จ. สมุทรสาคร มากว่า 15 ปี และต่อมาได้ร่วมก่อตั้งบริษัท เคเบิลไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) มีชื่อย่อว่า CTH เพื่อแก้ปัญหา ผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่นถูกกล่าวหาว่าเป็น "เคเบิลเถื่อน" เพราะไปละเมิดลิขสิทธิ์ช่องรายการของ True Visions และเจ้าของลิขสิทธิ์รายอื่น
เคเบิลท้องถิ่นถูกรังแกเป็นประจำ
สาเหตุที่เคเบิลท้องถิ่นต้องละเมิดลิขสิทธิ์ ก็เพราะเคเบิลท้องถิ่นแต่ละราย ล้วนเป็นรายเล็ก ไม่สามารถเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ช่องรายการดีๆ จากต่างประเทศ เพื่อนำกลับมาให้บริการกับสมาชิกได้ หรือแม้แต่บางครั้งไปซื้อมาได้ ก็จะถูกเคเบิลเจ้าใหญ่ระดับชาติ เข้าไปเจรจาแย่งซื้อต่อ โดยเสนอให้ราคาที่สูงกว่า และขอซื้อแบบผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว หรือไม่ก็ไม่ยอมให้เจ้าของลิขสิทธิ์ แบ่งขายลิขสิทธิ์ให้เคเบิลท้องถิ่น สุดท้าย เมื่อเคเบิลท้องถิ่นซื้อลิขสิทธิ์แบบถูกต้องไม่ได้ ก็ต้องขโมย
เคเบิลท้องถิ่น เคยพยายามเรียกร้องให้ภาครัฐ เข้าดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องการป้องกันไม่ให้มีการซื้อลิขสิทธิ์แบบผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว เหมือนดังเช่นในต่างประเทศที่ไม่ยอมให้มีการผูกขาด แต่ไม่เคยได้ผล เพราะภาครัฐบอกว่า เป็นการแข่งขันโดยเสรี และหากเคเบิลท้องถิ่นละเมิดลิขสิทธิ์ ก็จะมีหน่วยงานของทางราชการถึง 7 แห่ง คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง มาปราบปราม และสั่งปิดกิจการ เพื่อไม่ให้ดำเนินกิจการต่อไปได้ กระทั่งมีคนสงสัยว่า แค่ปราบเคเบิลท้องถิ่น ทำไมจึงต้องระดมถึง 7 หน่วยงาน
เคเบิลท้องถิ่นต้องช่วยตนเอง
เมื่อหาใครช่วยแก้ไขปัญหาไม่ได้ “คุณเกษม อินทร์แก้ว” นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยในสมัยนั้น จึงต้องจัดประชุมผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือกันเอง ด้วยการจัดตั้ง บริษัท เคเบิลไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ CTH ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมเงินไปซื้อลิขสิทธิ์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำช่องรายการที่ซื้อมาได้ มาขายต่อให้กับผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ ในราคาที่เป็นธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้เคเบิลท้องถิ่นไปละเมิดลิขสิทธิ์รายอื่น โดยมีเงื่อนไขว่า CTH จะไม่ทำเคเบิลทีวีแข่งกับผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่น
CTH เริ่มต้นด้วยเงิน 50 ล้านบาท
การตั้ง CTH ในระยะเริ่มต้น เป็นการลงทุนร่วมกันของผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่นประมาณ 120 ราย (ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาถือหุ้น) โดยต้องการวงเงินลงทุนเบื้องต้น 50 ล้านบาท และมีข้อกำหนดที่สำคัญคือ ผู้ถือหุ้น 1 รายจะถือหุ้นได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เอาเปรียบรายอื่น และเป้าหมายของ CTH ในขณะนั้น ก็เพียงต้องการให้บริษัท มีรายได้เท่ากับรายจ่าย หรือมีกำไรเพียงเล็กน้อย เพื่อกระจายกำไรไปสู่ผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่นโดยรวม
CTH เริ่มต้นด้วยการเป็น Content Provider
ในการดำเนินการครั้งแรก CTH สามารถเจรจาซื้อลิขสิทธิ์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศมาได้ 16 ช่อง และส่งขายให้ผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ (Content Provider) ส่งผลให้เคเบิลท้องถิ่นมีช่องรายการลิขสิทธิ์ที่ถูกกฎหมายเพิ่มขึ้น การละเมิดลิขสิทธิ์ช่องรายการ จากเจ้าของช่องรายอื่นๆ เริ่มลดลง
CTH ต้องการเพิ่มทุน
ต่อมา CTH ต้องการที่จะเพิ่มคุณภาพช่องรายการ และต้องการซื้อช่องลิขสิทธิ์ช่องรายการเพิ่มเติม จึงระดมเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 150 ล้านบาท แต่ด้วยนโยบายที่ไม่ต้องการให้ CTH มีกำไรมาก และด้วยข้อจำกัดของข้อกำหนดให้ ผู้ถือหุ้น 1 รายจะถือหุ้นได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท ทำให้การระดมทุนไม่สามารถทำได้ตามเป้า จึงได้มีการแก้ข้อกำหนด ให้ผู้ถือหุ้น 1 รายถือ หุ้นได้ไม่จำกัด และอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาถือหุ้นเพิ่มทุนได้
คุณวิชัย ได้รับการร้องขอให้เข้ามาช่วย
คุณสุรพล ต้องการสนับสนุนโครงการ CTH ให้สำเร็จ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่นโดยรวม จึงมีการระดมเพื่อนฝูงเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน กระทั่งกลุ่มของคุณสุรพล ได้กลายเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ใน CTH และมีอำนาจในการบริหารงานแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
โดยในกลุ่มเพื่อนของคุณสุรพลที่เข้ามาร่วมระดมทุน มีชื่อของ คุณวิชัย ทองแตง รวมอยู่ด้วย โดยคุณสุรพล เป็นผู้เดินจากบ้านริมแม่น้ำแม่กลองไปชักชวนด้วยตนเอง อีกทั้งยังขอให้คุณวิชัย เข้ามาเป็นที่ปรึกษา CTH เพื่อร่วมกันวางแผนช่วยเคเบิลบ้านนอกลืมตาอ้าปากให้ได้
CTH กลายเป็น Operator
เมื่อได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษา CTH คุณวิชัย จึงส่งคุณกฤษณัน งามผาติพงศ์ (ต่อมาเป็น CEO คนแรกของ CTH) พร้อมทีมงาน เข้าศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ CTH และพบว่า ด้วยโครงสร้างที่เข้มแข็งของผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่น โดยมีสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยเป็นแกนกลาง น่าจะมีช่องทางในการนำผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่นเป็นฐานในการทำเคเบิลทีวีระดับชาติได้ ด้วยการปรับแนวคิดจากการให้ CTH ไปซื้อลิขสิทธิ์ช่องรายการมาขายต่อให้กับเคเบิลท้องถิ่น (Content Provider) เป็นการนำ CTH มาทำธุรกิจเคเบิลทีวีระดับชาติ (Operator) โดยตรง เพื่อแข่งกับ True Visions และเพื่อยกระดับการให้บริการของเคเบิลท้องถิ่นโดยรวมให้มีมาตรฐาน และเปลี่ยนระบบการให้บริการจาก Analog ไปสู่ Digital โดย CTH จะเป็นผู้ลงทุนระบบ Digital ให้เอง
ความบังเอิญครั้งที่ 1
เรื่องนี้มีความบังเอิญครั้งที่ 1 ที่ทำให้คุณวิชัย ตัดสินใจลงทุนใน CTH ได้ง่ายขึ้นคือ ในปี 2555 คณะกรรมการกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม. (กสทช.) กำลังจะออกใบอนุญาตประกอบกิจการเคเบิลทีวีระดับชาติ แบบถูกต้องตามกฎหมายเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยใบอนุญาตดังกล่าวจะมีอายุ 15 ปี ซึ่งจะเป็นใบอนุญาตเดียวกันกับที่ True Visions จะมีในอนาคตเช่นกัน
งานนี้หาก CTH จับมือกับเคเบิลท้องถิ่นได้ CTH ก็จะโตอย่างรวดเร็ว เพราะมีเคเบิลท้องถิ่นเป็นฐาน มีผู้ประกอบกิจการกว่า 350 ราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ ส่วนเคเบิลท้องถิ่นก็จะสามารถทำเคเบิลทีวีต่อไปได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ถูกรังแกเรื่องการแย่งซื้อลิขสิทธิ์เหมือนในอดีตอีกต่อไป เพราะมีคุณวิชัย เป็นผู้สนับสนุน
ความบังเอิญครั้งที่ 2
เมื่อแนวคิดในการทำ CTH เปลี่ยนจากการเป็น Content Provider มาเป็น Operator หัวใจของการเป็นผู้ประกอบกิจการเคเบิลทีวีคือ ช่องรายการ และถ้า CTH จะแข่งกับ True Visions ก็ต้องดึงช่องรายการที่เป็นหัวใจของ True Visions มาให้ได้ นั่นคือ การแย่งซื้อลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสด Premier League มาให้ได้ เรื่องนี้ก็เป็นความบังเอิญครั้งที่ 2 ที่ลิขสิทธิ์ดังกล่าว ของ True Visions จะหมดอายุลงในเดือน พฤษภาคม 2556 ดังนั้น หากจะล้ม True Visions คุณวิชัย ก็จะต้องไปประมูลเพื่อให้ได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ Premier League ซึ่งการประมูลจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2555
ได้ ไทยรัฐเข้ามาร่วมโครงการ
เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า โครงการดังกล่าวจะต้องประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน คุณวิชัย จึงเพิ่มทุน CTH เป็น 300 ล้านบาท และเพิ่มอีกครั้ง เป็น 1,000 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ Grammy และ ไทยรัฐ เข้าร่วมลงทุนด้วย แต่ในที่สุด คุณวิชัย ก็ไม่สามารถตกลงกับ Grammy ได้ จึงจับมือกับ ไทยรัฐ เพียงรายเดียว เพื่อมาเป็น 3 ขาร่วมกับเคเบิลท้องถิ่น โดยคุณวิชัยลงทุนเพิ่ม 250 ล้านบาท ไทยรัฐลง 250 ล้านบาท ทำให้ CTH มีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 800 ล้านบาท ส่วนอีก 200 ล้านรอไว้หารายอื่นเข้ามาแทน Grammy
ได้ลิขสิทธิ์ Premier League
หลังจากได้พันธมิตรอย่างไทยรัฐเข้ามาถือหุ้นด้วย คุณวิชัยก็เหมือนเสือติดปีก การไปประมูลลิขสิทธิ์ Premier League เป้าหมายของคุณวิชัยคือ "เอามาให้ได้" ตรงนี้จึงเป็นที่มาของการสู้ราคาครั้งประวัติศาสตร์ โดยมูลค่าการประมูลเพิ่มจาก 2,500 ล้านบาท เป็น 10,000 ล้านบาท โดยมี บมจ.ธนาคารกรุงเทพ และไทยรัฐ เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ
CTH มั่นใจเต็ม 100
เมื่องานใหญ่ทำสำเร็จ 3 เรื่องคือ ได้ CTH มาบริหารอย่างเต็มรูปแบบ ได้ไทยรัฐมาเป็นผู้ถือหุ้นเพิ่มทุน และได้ลิขสิทธิ์ Premier League มาไว้ในมือ ทำให้ผู้บริหาร CTH มีความมั่นใจว่า จะสามารถแย่งฐานสมาชิกของ True Visions มาได้อย่างแน่นอน และจะสามารถเพิ่มฐานสมาชิกได้ถึง 10 ล้านครัวเรือนภายในเวลา 3 ปี
เมื่อ 3 ก้าวแรกที่เดินไปประสบผลสำเร็จ ความมั่นใจจึงเต็ม 100 จนเป็นที่มาของความผิดพลาดสำหรับ CTH ในเวลาต่อมา
ความผิดพลาดครั้งที่ 1
เมื่อ CTH มีความมั่นใจสูง จึงมั่นใจต่อไปอีกว่า เคเบิลท้องถิ่นทุกราย จะต้องเข้าร่วมโครงการกับ CTH อย่างแน่นอน ดังนั้นการตั้งเงื่อนไขเพื่อให้เคเบิลท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการ จึงเป็นไปแบบไม่ง้อเคเบิลท้องถิ่น นั่นคือ
- เคเบิลท้องถิ่นที่จะเข้าร่วมโครงการ จะต้องส่งรายชื่อฐานสมาชิกทั้งหมดมาให้ CTH เพื่อยืนยันจำนวนฐานสมาชิก เพื่อ CTHจัดส่งกล่องรับสัญญาณระบบ Digital DVB-C ไปให้ติดตั้งกับสมาชิก "ฟรี" โดยลูกค้าที่ไม่ได้ส่งรายชื่อจะไม่ได้กล่อง Digital ฟรี
- ต้องให้สมาชิกทั้งหมดของเคเบิลท้องถิ่น ที่ติดตั้งกล่อง Digital ของ CTH กรอกใบสมัครใหม่เพื่อเปลี่ยนมาสมัครเป็นสมาชิกของ CTH โดยตรง
- CTH จะเป็นผู้วางบิล เพื่อเรียกเก็บเงินจากสมาชิกเอง และจะโอนส่วนแบ่งรายได้ให้ เคเบิลท้องถิ่นในภายหลัง
- ให้บริการผ่านเคเบิลท้องถิ่น โดย CTH จะต้องเช่าสาย Fiber Optic ของ Symphony และ TOT เพื่อส่งสัญญาณไปให้เคเบิลท้องถิ่น 170 รายทั่วประเทศ งานนี้ CTH ต้องเสียค่าเช่าสาย Fiber Optic ปีละเกือบ 200 ล้านบาท หากได้รายได้จากเคเบิลท้องถิ่นไม่เพียงพอ CTH ก็จะขาดทุนเพิ่มเติม
- ให้บริการผ่านจานดาวเทียม Vinasat ของเวียดนาม โดย CTH ไปเช่า Transponder จากดาวเทียม Vinasat คงต้องดูว่า สัญญาเช่ากี่ปี และเสียค่าเช่าปีละเท่าใด จึงจะตัดสินใจได้ว่า จะคุ้มค่าหรือไม่ หรือจะให้บริการต่อไปหรือไม่
- ให้บริการผ่านจานดาวเทียม PSI โดยทาง CTH ต้องเสียค่าเช่า Transponder กับดาวเทียม Thaicom เพื่อส่งสัญญาณไปให้บริการเพิ่มในจานดาวเทียม PSI คงต้องดูว่า รายได้ที่ได้จากสมาชิก PSI จะเพียงพอกับรายจ่ายที่เกิดขึ้นหรือไม่
- ให้บริการผ่านกล่อง GMMZ ในระบบ Ku-Band เพราะเมื่อไปซื้อ GMMZ จาก Grammy มาได้ จึงสามารถให้บริการ CTH ผ่านกล่อง GMMZ ในดาวเทียม Thaicom ได้ งานนี้ CTH หวังเอาไว้มาก เพราะสมาชิก True Visions ที่ต้องการรับชม Premier League ของ CTH สามารถนำกล่อง GMMZ ไปเปลี่ยนกล่อง True Visions ได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งจานดาวเทียมเพิ่มเติม แต่การได้มาก็ต้องเพิ่มต้นทุนค่า Transponder ในดาวเทียม Thaicom ซึ่งก็คงต้องดูว่า สัญญาเหลือกี่ปี และต้องจ่ายค่าเช่าอีกปีละเท่าใด รายได้ที่เข้ามา คุ้มค่าหรือไม่
- ผ่าน IPTV ในชื่อ ZIP TV ระบบนี้ เป็นระบบที่จะมีประโยชน์ในอนาคต ที่อยู่ในแผนของ CTH
Mostview
พาชมงาน MONEY EXPO 2024 โซน Franchise SMEs มีธุรกิจอะไรน่าลงทุน
เริ่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับงาน MONEY EXPO 2024 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยภายงานในงานได้มีสถาบันทางการเงินที่นำบริการสินเชื่อต่าง ๆ มานำเสนอให้กับผู้ที่สนใจมองหาแหล่งทุนสำหรับนำไปใช้ในเรื่องต่าง
คนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บสำหรับการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท
ภายในงาน KKP Financial Talk: Money Master #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้ ซึ่งมีการพูดถึงปัญหาและคำแนะนำให้กับ Sandwich Generation ผู้แบกภาระการดูแลทั้งคนรุ่นก่อน และรุ่นหลังไว้ ในขณะที่เศรษฐกิจไม่เกื้อหนุนให้พวกเขาได้สบายขึ้น
ซีพีออลล์ ทำรายได้ไตรมาส 1/2567 รวม 241,307 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 พบว่าบริษัทมีรายได้รวม 241,307 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท