โค้งสุดท้ายภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีเบนิกโน อากีโนที่ 3 (Aquino) ในไตรมาสแรกของปี 2559 เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มีการขยายตัวมากที่สุดในเอเชียด้วยตัวเลขร้อยละ 6.9 ตามด้วยจีนที่ร้อยละ 6. 7 เวียดนามร้อยละ 5.5 อินโดนีเซียร้อยละ 4.9 และมาเลเซียร้อยละ 4.2 โดยจากการรายงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

         สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ฟิลิปปินส์ถีบตัวขึ้นสูงนั้นมาจากแรงขับเคลื่อนอุปสงค์การก่อสร้างที่ขยายตัวร้อยละ 12 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการก่อสร้างโครงการภาครัฐ โดยขยายตัวมากถึงร้อยละ 39.9 ส่วนแรงขับเคลื่อนด้านอุปทานมาจากอุตสาหกรรมและภาคบริการที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 8.7 และ 7.9 ตามลำดับด้านภาคเกษตรยังคงน่าเป็นห่วง ซึ่งมีการหดตัวถึงร้อยละ 4.4 เป็นผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติโดยปรากฏการณ์เอลนิญโญ ซึ่งเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองผู้เชี่ยวชาญต่างเปิดเผยว่า จะมีอัตราการเติบโตสูงกว่า ไตรมาสแรก และภาคส่วนต่าง ๆ เชื่อว่านายโรดริโก ดูเตอร์เต ที่เพิ่งทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี คนที่ 16 ของฟิลิปปินส์ จะสานนโยบายด้าน เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

    จากประธานาธิบดีเบนิกโน อากีโนที่ 3 (Aquino) ซึ่งอาจทำให้ฟิลิปปินส์มีโอกาสให้ GDP  ปีนี้ (2559) ขยายตัวมาก ถึงร้อยละ 6.8-7.8 โดยก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ธนาคารฯ มีช่องว่างนโยบายที่จะรับมือกับความเสี่ยงหลังสหราชอาณาจักรลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) จนเกิดสภาวะช็อก Brexitขึ้น โดยฟิลิปปินส์เองก็มีปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งเป็นแรงสนับสนุน ทำให้ธนาคารฯ มองว่าไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงการกำหนดนโยบายการเงินในปัจจุบันของธนาคารกลางในขณะนี้ แต่จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้านสนับสนุนการลงทุนต่างชาติ นายโรดริโก สนับสนุนให้มีการปรับปรุงแก้ไขรฐธรรมนูญ เพื่อยกเลิกข้อจำกัดการลงทุนของต่างชาติ และสั่งหน่วยงานด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ปรับปรุงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากการที่ฟิลิปปินส์ติดอันดับชาติที่ความเร็วช้าที่สุดในภูมิภาค

      แต่อย่างไรก็ตาม นายโรดริโก ก็ยังไม่เห็นด้วยกับการที่ให้ชาวต่างชาติมีสิทธิในการถือครองที่ดิน นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์เดลี่เอ็นไควเรอร์ ยังรายงานอีกว่า นายโรดริโก ประกาศนโยบายให้ชาวนาปลูกข้าว 4 ครั้งต่อปี เพื่อเพียงพอต่อความต้องการในประเทศได้ 100% และตั้งเป้าภายใน 2 ปี โดยกำหนดให้ผู้อำนวยการเกษตรของกรมการเกษตรในแต่ภูมิภาคของประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งการประกาศของ นายโรดริโก ยังกำหนดบทลงโทษถึงผู้ที่ดำเนินตามเป้าหมายไม่สำเร็จว่าจะโดนปลดออกจากตำแหน่ง

By : กุลจิรา มุทขอนแก่น ที่มารูป : Japan times