วันพุธ, พฤษภาคม 8, 2567

สวทช. ผนึกเครือข่าย จัดงาน “Thailand Tech Show 2016” ขับเคลื่อนเทคโนโลยีไทย เชื่อมโยงการลงทุน

by Smart SME, 26 สิงหาคม 2559

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จับมือเครือข่ายพันธมิตร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฯลฯ แถลงข่าว การจัดงาน “Thailand Tech Show 2016” ระหว่างวันที่ 8–10 กันยายน 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “S&T for Thailand 4.0” เพื่อเป็นเวทีกลางในการนำเสนอและเผยแพร่ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมของ สวทช. คาดกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมโยงผลงานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง เกิดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนสร้างช่องทาง และโอกาสให้กับผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี และ Tech Startup ให้สามารถต่อยอดและขยายตลาดให้แก่ธุรกิจเทคโนโลยีไปสู่ระดับสากลได้ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการผลักดัน และยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ให้เกิดการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน ด้วยการมุ่งสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ผ่านการขับเคลื่อนในรูปแบบของ “ประชารัฐ” ให้ประเทศมีความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ภายใต้การขับเคลื่อน นโยบาย “ประเทศไทย 4.0” หรือ “Thailand Economy 4.0” ซึ่งเป็นการวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว โดยมีเป้าหมายในการผลักดันให้ประชาชน มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการปฏิรูป 3 ประการ ได้แก่ การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ จากเดิมที่เป็นการผลิต โดยใช้แรงงาน เครื่องจักรและทรัพยากร มาเป็นการผลิตบนฐานความรู้ และเทคโนโลยี (Technology Base) การพัฒนาภาคบริการ รวมทั้งต้องมีการปฏิรูปการวิจัยและพัฒนา โดยดึงสถาบันวิจัยระดับโลกเข้ามาตั้งในประเทศไทย และการปฏิรูประบบการศึกษาที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างแรงงาน ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ดำเนินโครงการสานต่อ แนวนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนด้วยโมเดล Thailand 4.0 โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ Bioeconomy และ Digital economy ซึ่งเป็น 2 ใน 5 อุตสาหกรรมที่รัฐบาลกำหนดไว้ใน Thailand 4.0 ที่จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น มุ่งส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยมีการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล ยั่งยืน และมีการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมการบริหารจัดการสมัยใหม่ อันจะนำประเทศไทยไปสู่การหลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลางได้ต่อไป การจัดงาน “Thailand Tech Show 2016” นับเป็นอีกหนึ่งผลงานความสำเร็จ ที่ภาครัฐพยายามผลักดันผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้ออกสู่เชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นการนำเสนอในรูปแบบตลาดเทคโนโลยี ผู้ซื้อพบผู้ขาย สนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยี และ Tech Startup รวมทั้งเชื่อมโยงการลงทุนในรูปแบบใหม่กับแหล่งทุนที่เหมาะสม เพื่อจะสามารถเป็นกลไกในการเร่งสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และต่อยอดให้เกิดขึ้นได้เร็วและในวงกว้าง รวมถึงสามารถขยายตลาดให้แก่ธุรกิจเทคโนโลยีซึ่งเป็นการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล โฆษกกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการวิจัยและพัฒนา พร้อมทั้งถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนเสริมศักยภาพ SME ไทยให้มีความเข้มแข็ง กระตุ้นให้เกิดการต่อยอดธุรกิจด้วยนวัตกรรม อันจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศชาติต่อไป สวทช. ได้ร่วมมือกับ เครือข่ายพันธมิตรและผู้สนับสนุน ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยต่างๆ จัดงาน “Thailand Tech Show 2016” ขึ้น เพื่อเป็นกลไกใช้ขับเคลื่อนผลงานวิจัยอันทรงคุณค่าออกสู่เชิงพาณิชย์ ให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม สามารถเข้าถึงได้ง่าย ภาพรวมของการจัดงาน “Thailand Tech Show 2016” ในครั้งนี้ ภายในงานได้จัดให้มีโซนต่างๆที่น่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย โซนการจัดแสดง ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี บูธเทคโนโลยีราคาเดียว และเทคโนโลยีต่อรองราคา ซึ่งเป็นผลงานเด่นของ สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร ที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับการลงทุน อาทิเช่น 1. ชุดตรวจโรคไข้เลือดออก (DEN-STEP) : ผลิตภัณฑ์นี้เป็นชุดตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสเด็งกี่ในซีรั่มผู้ป่วยในระยะไข้ที่สามารถแยกซีโรทัยป์ได้ โดยใช้หลักการของการตรวจหาโปรตีน NS1 ของไวรัสเด็งกี่ด้วยแอนติบอดีที่มีความจำเพาะต่อโปรตีน NS1 ของแต่ละซีโรทัยป์ โดยวิธี ELISA ซึ่งสามารถทำได้ง่ายโดยใช้อุปกรณ์เครื่องมือพื้นฐานในห้องปฏิบัติการ ทราบผลได้เร็วภายใน 3 ชั่วโมง 2. บรรจุภัณฑ์ฟิล์มปิดหน้าถาดสำหรับผลิตผลสดตัดแต่ง (Topflex) : เป็นการออกแบบและพัฒนาฟิล์มโครงสร้างหลายชั้น (Multilayer co-extrusion) เพื่อนำมาประยุกต์ใช้เป็นฟิล์มปิดหน้าถาดที่มีความสามารถในการลอกออกง่าย มีความใสและมีสมบัติป้องกันการเกิดฝ้า มีความสามารถในการควบคุมการผ่านของก๊าซและปรับสมดุลบรรยากาศให้เหมาะสมกับการรักษาความสดของผักและผลไม้ตัดแต่งภายในบรรจุภัณฑ์ ด้วยกระบวนการผลิตฟิล์มร่วมกับเทคนิคการเจาะรูฟิล์มระดับไมครอนด้วยเลเซอร์ และ สามารถผลิตด้วยเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมปัจจุบัน 3. ชิปขยายสัญญาณรามาน NECTEC SERS Chip (WhatSERS) : ใช้สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจวัดสารเคมีด้วยเทคนิค Raman spectroscopy ให้สามารถวัดสัญญาณของโมเลกุลในระดับ trace ได้ สร้างด้วยเทคนิคการเคลือบฟิล์มขั้นสูงที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษทำให้ได้ฟิล์มบางโครงสร้างนาโนของโลหะเงินที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวสามารถขยาย สัญญาณรามานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าอัตราการขยายสัญญาณสูงกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันที่มีขายในท้อง ตลาดกว่า 100 เท่า สามารถประยุกต์ใช้ได้กับการตรวจวัดสารตัวอย่างที่มีความเจือจางมากใน ระดับ trace concentration ซึ่งไม่สามารถตรวจวัดได้ด้วยเทคนิคการตรวจวัดสัญญาณรามานแบบปกติ เหมาะสำหรับการใช้งานทางด้าน เภสัชกรรม นิติวิทยาศาสตร์ การตรวจทางคลินิก ความมั่นคง และการศึกษาวิเคราะห์สารเคมีทั่วไป 4. กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง (MuEyes) : ทำจากวัสดุพอลิเมอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อการใช้งาน สามารถติดหน้ากล้องของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตโดยไม่ต้องใช้กาว เลนส์มีกำลังขยายสูงมากกว่า 200 เท่า ทำให้บันทึกภาพวัตถุขนาดเล็กด้วยกำลังสูง มีความคมชัดยิ่งขึ้น เหมาะกับการประยุกต์ใช้ ในงานที่หลากหลาย อาทิ ด้านการศึกษา การเกษตร การแพทย์ 5. แพลตฟอร์มสื่อสารเพื่อเชื่อมต่อทุกสรรพสิ่ง (NETPIE) : Internet of Things หรือ IoT คือ สภาพแวดล้อม อันประกอบด้วยสรรพสิ่งที่สามารถสื่อสารและเชื่อมต่อกันได้ผ่านโพรโทคอล การสื่อสารทั้งแบบใช้สายและไร้สาย โดยสรรพสิ่งต่างๆ มีวิธีการระบุตัวตนได้ รับรู้บริบทของสภาพแวดล้อมได้ และปฏิสัมพันธ์โต้ตอบและทำงานร่วมกันได้ ความสามารถในการสื่อสารของสรรพสิ่งนี้จะนำไปสู่นวัตกรรมและบริการใหม่อีกมากมาย เช่น เซ็นเซอร์ภายในบ้านตรวจจับการเคลื่อนไหวของ ผู้อยู่อาศัย และส่งสัญญาณไปสั่งเปิด/ปิดสวิตซ์ไฟตามห้องต่างๆ ที่มีคนหรือไม่มีคนอยู่ อุปกรณ์วัดสัญญาณชีพของผู้ป่วย/ผู้สูงอายุและส่งข้อมูลไปยังบุคลากรทางการแพทย์หรือส่งข้อความเรียกหน่วยกู้ชีพหรือรถฉุกเฉิน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีโซนการให้บริการสนับสนุนจากภาคเอกชนและธุรกิจเทคโนโลยี โซนผู้สนับสนุน โซนการจำหน่ายสินค้านวัตกรรม โซนการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) และโซนการจับคู่ธุรกิจ (One-on-One Matching) รวมถึง กิจกรรมการอบรมสัมมนาเชิงวิชาการเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจเทคโนโลยีจากผู้ทรงคุณวุฒิภายในงานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น - ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “New S Curve กับการขับเคลื่อนประเทศสู่ Thailand 4.0” โดย ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - การบรรยายเรื่อง “10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามองสำหรับธุรกิจ (10 Technologies to Watch for business)” โดย ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ - การเสวนาเรื่อง “แนวโน้มตลาดและโอกาสธุรกิจในยุค Thailand 4.0” - การเสวนาเรื่อง "บัญชีนวัตกรรมไทย : เข้าถึงตลาดภาครัฐ มาตรฐานก้าวไกลส่งเสริมนวัตกรรมไทยสู่เชิงพาณิชย์" - การปาฐกถาพิเศษเรื่อง “Thailand 4.0 ด้วยวิจัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (ววทน.)” - การเสวนาเรื่อง “ก้าวต่อไปของ Start Up ไทยบนแผ่นที่โลก” - การบรรยายพิเศษเรื่อง “Start Up Voucher : กลไกสนับสนุนด้านการตลาดสำหรับกลุ่ม Start Up” งาน “Thailand Tech Show 2016” กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 8–10 กันยายน 2559 ตั้งแต่เวลา 09.00–17.00 น. ณ Plenary Hall 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นักธุรกิจเทคโนโลยีและผู้สนใจเข้าร่วมงาน สามารถลงทะเบียนล่วงหน้า พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nstda.or.th/thailandtechshow2016/

Mostview

ผลกระทบขึ้นค่าแรง 400 บาท อาจทำให้สินค้าขยับราคาขึ้น 15%

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้สำรวจความคิดเห็นภาคเอกชน ทั้งในภาคส่วนการผลิต การค้า และบริการ การปรับอัตราค่าแรงในแต่ละครั้งมักจะมีผลกระทบต่อทั้ง GDP เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน รวมถึงอัตราการว่างงานทั้งบวกและลบ

KFC มาเลเซียปิดกว่า 100 สาขา เพราะถูกชาวมุสลิมคว่ำบาตรธุรกิจสัญชาติสหรัฐฯ

KFC แฟรนไชส์สัญชาติอเมริกันกำลังตกเป็นเป้าหมายการรณรงค์คว่ำบาตรธุรกิจของประเทศที่มีความเชื่อมโยงกับอิสราเอลที่ทำสงครามกับชาวปาเลสไตน์จนมีประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

Wang Ning เจ้าของ Pop Mart ผู้กลายมาเป็นเศรษฐีจากการขายตุ๊กตา Molly ราคา 300 กว่าบาท ทั่วจีน

Pop Mart ร้านขายของเล่น Art Toys ชื่อดัง ที่ชั่วโมงนี้ไม่มีนักสะสมคนไหนไม่รู้จัก พร้อมที่จะมุ่งไปทันทีหากมีการเปิดขายคอลเล็กชันตัวละครใหม่ จนต้องมีการลงทะเบียนเพื่อรับคิวในการเข้าซื้อกันเลยทีเดียว

นี่คือเหตุผล เพราะอะไรการทำงานหนักไม่การันตีว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป

ทุกคนมักคิด และถูกปลูกฝังมาตลอดว่าให้ทำงานหนักเข้าไว้ แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่นี่อันเป็นความเชื่อที่ผิดก็ได้ หากเราตั้งข้อสงสัยว่า “ความหมายการทำงานหนักที่แท้จริงคืออะไร?” ทำไมผู้คนต่างทำตาม และดิ้นรนให้เกิดขึ้นจริง

SmartSME Line