นายสมประสงค์ พยัคฆพันธุ์ รองประธานสัมพันธ์เอสเอ็มอีไทยและประธานคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท เฉพาะตลาดในประเทศมีมูลค่าถึง 1.2 แสนล้านบาท เหตุผลที่หลายคนสนใจหันมาสร้างแบรนด์สินค้าเครื่องสำอางเป็นของตนเอง เนื่องจากเป็นสินค้าที่ซื้อง่าย ขายคล่อง ซึ่งความพยายามของกสอ. ก็หวังจะผลักดันให้อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย มีมูลค่าส่งออกติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า นั่นหมายความว่า จะต้องขยายตัวอย่างต่อเนื่องปีละ 10% แต่สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ไม่ง่ายเลยที่จะสร้างแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตนเองให้ประสบความสำเร็จ หลายคนถูกมิจฉาชีพหลอกลวงเรื่องของการผลิตสินค้า หลายคนมีทัศนคติทางการตลาดแบบผิดๆ หรืออ่านเทรนด์ของตลาดในอนาคตไม่ออก ทำให้ต้องล้มหายตายจากไปจากวงการธุรกิจเครื่องสำอาง ดังนั้น สิ่งที่ควรคำนึงถึงหลักๆในการเริ่มต้นทำธุรกิจเครื่องสำอางสำหรับมือใหม่คือ

1. หาองค์ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจเครื่องสำอางอาจจะผ่านจากงานสัมมนาต่างๆ
2. ควรสมัครเข้าร่วมสมาคมเพื่อหาเครือข่ายจะได้รับข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในแวดวงธุรกิจเดียวกันได้มากขึ้น
3. ตรวจสอบข้อมูลของโรงงานที่จะจ้างให้ผลิตสินค้าว่าเชื่อถือได้จริงหรือไม่ ซึ่งหากเป็นสมาชิกของสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยก็จะเข้าถึงรายชื่อโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางทั้งปริมาณน้อยและมากได้แบบไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหลอก
4. การผลิตสินค้าควรผลิตตัวต้นแบบเพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้และรอรับการรีวิว หากเป็นสมาชิกของสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยก็จะได้รับการติวเข้มเรื่องการพัฒนาสินค้าและพาไปขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป

อย่างไรก็ตามทางสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจะมีการจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการหลายกลุ่มประเภทธุรกิจ รวมถึงกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางให้ได้รับความรู้ใหม่และแลกเปลี่ยนสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจอยู่เสมอ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลได้ผ่านทางสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย หรือไลน์ไอดี @smethai