"Lalamove" (ลาล่ามูฟ) แอปพลิเคชั่นสัญชาติฮ่องกง เริ่มแรกเปิดตัวในชื่อ EasyVan วางตำแหน่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งแบบ on demand ในเอเชีย ผ่านสมาร์ทโฟนทั้งในระบบแอนดรอยด์  (Android) และ ไอโอเอส (ios) ....หลังการประกาศลงทุนรอบใหม่ครั้งใหญ่อีก 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา (2559) จากบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และผู้ลงทุนเก่ารายอื่นๆ ได้แก่ MindWorks จากฮ่องกง Crystal Stream จากประเทศจีน  AppWorks จากประเทศไต้หวัน และ Aria Group จากฮ่องกง ซึ่งการระดมทุนรอบนี้ทำให้ "ลาล่ามูฟ" มียอดการระดมทุนรวมถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นายชิง เชา CEO ของลาล่ามูฟ กล่าวว่า "...จากการเริ่มต้นทำธุรกิจกันแบบเล็กๆ ใช้พื้นที่ในอพาร์ทเม้นต์ของตนเองเป็นออฟฟิศแรกของลาล่ามูฟ ซึ่งใช้เวลา 2 ปีในการขยายไปกว่า 21 เมืองทั่วทั้งเอเชีย" [caption id="attachment_51365" align="alignnone" width="2271"] สันทิต จีรวงศ์ไกรสร ผู้ร่วมก่อตั้ง Lalamove Thailand และกรรมการผู้จัดการ[/caption] การเติบโตอย่างรวดเร็วของลาล่ามูฟ เห็นได้ชัดขึ้นจากที่ที่แอปดังกล่าวประกาศความร่วมมือกับ LINE แชทแอปพลิเคชั่นชื่อดังอย่างเป็นทางการ โดยการเป็นพาร์ทเนอร์ด้านการขนส่งให้กับ LINE MAN แอปให้บริการรูปแบบใหม่จากทาง LINE ที่เพิ่งเปิดให้ผู้ใช้ชาวไทยได้ใช้บริการได้ไม่นานนี้ ลูกค้าหลัก ที่ ลาล่ามูฟวางเป้าหมายไว้เบื้องต้น คือ กลุ่มเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี แต่จนถึงขณะนี้ ยังได้มีโอกาสให้บริการขนส่งร่วมกับบริษัทชั้นนำ อย่าง Google, IKEA, และ LINE การผนึกกำลังกับ LINE ในแอปพลิเคชั่นชื่อ LINE MAN (ไลน์แมน) ที่ถือเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มบนมือถือยอดนิยมระดับโลก ต่อยอดให้ลาล่ามูฟเป็นที่รู้จักในฐานะแอปฯ ให้บริการขนส่งเพิ่มมากขึ้น โดยแบรนด์ ตั้งเป้าจะสร้างบริการขนส่งที่อำนวยความสะดวกสบายสูงสุดในชีวิตประจำวัน ให้เกิดกับผู้บริโภค  ซึ่ง LINE MAN เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชั่นแรกๆ ของ LINE ที่ได้เลือกประเทศไทยเป็นตลาดแรกในการเปิดตัว LINE MAN  อีกด้วย ปัจจุบัน ในประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้ LINE มากกว่า 33 ล้านคน ซึ่ง LINE MAN มีบริการหลัก 3 ประเภท ได้แก่ การส่งพัสดุหรือเอกสาร  การสั่งซื้อและจัดส่งอาหารจากร้านอาหารยอดนิยมในกรุงเทพฯ และการซื้อของจากร้านสะดวกซื้อพร้อมบริการส่ง โดยมี Lalamove รับหน้าที่ผู้ให้บริการจัดส่งในกรุงเทพฯ และจะขยายบริการการออกไปยังพื้นที่ต่างๆ เพิ่มเติมในอนาคต   Lalamove พูดถึงจุดแข็งของแบรนด์ของตนในการขนส่งสินค้า ประกอบด้วย

1. การบริการที่เชื่อถือได้ – สะดวก รวดเร็ว และง่ายดายในการเรียกใช้งาน พร้อมกับความเป็นมืออาชีพและจำนวนที่เพียงพอของพนักงานขนส่ง
2. ราคาสมเหตุสมผล – การส่งสินค้าแบบเร่งด่วนของ Lalamove มีราคาที่เป็นมาตรฐาน ตรวจสอบได้และมีความโปร่งใส มีระบบจะคำนวณราคาให้ก่อนการตกลงเรียกใช้บริการ
3. ความเป็นผู้นำด้านแอปพลิเคชั่นการขนส่ง – ยอดการเรียกใช้จำนวนมาก สะท้อนถึงพนักงานขนส่งที่ผ่านการอบรมและการรับรองบริการขนส่ง
4. รวดเร็ว – การจราจรที่หนาแน่นของกรุงเทพฯ ไม่ใช่ปัญหา Lalamove คือช่องทางการขนส่งที่รวดเร็วที่สุด มั่นใจได้ว่าของทุกชิ้นจะถึงมือผู้รับทันเวลา
5. ได้รับความไว้วางใจให้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ LINE –ได้รับความไว้วางใจจาก LINE ในแอปพลิเคชั่นชื่อ LINE MAN (ไลน์แมน) ให้เป็นพาร์ทเนอร์ในการขนส่งสินค้าเหล่านี้

....ท่ามกลางตลาดออนไลน์ หรือ E-Commerce ที่โตวันโตคืน ธุรกิจให้บริการขนส่งเป็นเหมือนแขนขาของพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ ที่ออเดอร์มา ก็ต้องหาเครื่องมือให้ส่งสินค้าได้ไว บริการที่สะดวก ด่วน ทันใจ คำนวณต้นทุน บวกลบกำไรอยู่ในราคาที่รับได้  จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ แม้ว่าปัจจุบันในธุรกิจขนส่งเอกชนด้วยกันเองจะมีหลายรายยกมือพร้อมให้บริการดังกล่าว รองรับเทรนด์การเติบโตและพร้อมประกาศขอแบ่งเค้กส่วนแบ่งตลาดจากไปรษณีย์ไทย แต่ใครจะเข้าวิน ต้องวัดที่ฟังชั่น บริการ และตอบโจทย์การใช้งานให้ธุรกิจรายเล็กได้มากที่สุดนั่นเอง.......    

Info : Lalamove คือ แอปพลิเคชั่นที่เชื่อมต่อให้คนขับรถขนส่งมืออาชีพรับงานขนส่ง มีให้เลือกบริการ 3 รูปแบบคือ รถมอเตอร์ไซค์, รถอเนกประสงค์ MPV และรถกระบะจำนวนผู้ใช้แอปพลิเคชั่น Lalamove ทั่วทั้งภูมิภาคในปัจจุบันนั้นอยู่ที่ 660,000 ราย ในประเทศไทย Lalamove มียอดดาวน์โหลดกว่า 100,000 ครั้ง พร้อมคนขับหลายหมื่นคนพร้อมให้บริการทั่วกรุงเทพฯ ถือว่าเป็นผู้ให้บริการขนส่งด่วนแบบ on demand ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้...