วันศุกร์, พฤษภาคม 10, 2567

นักบริหารควรสัมผัสได้

by Smart SME, 18 พฤศจิกายน 2559

img_1739

            สุขุม นวลสกุล

...... โดยปกตินักบริหารถือเป็นคนระดับสูงในบริษัทเพราะจะต้องเป็นหัวหน้ามีหน้าที่บังคับบัญชาหรือดูแลคนอื่นๆ ที่อยู่ในฐานะลูกน้อง เมื่อเป็นลูกพี่       นักบริหารจึงมักได้รับความเกรงอกเกรงใจหรือบางครั้งอาจถึงขั้นเกรงกลัว ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกน้องจะพูดจะคุยด้วยก็มักจะต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ไม่ใช่นึกอยากจะสนทนาด้วยก็โผล่พรวดเข้าไปหา

เพราะฉะนั้นคนเป็นนักบริหารมักจะเปล่าเปลี่ยวหาคนพูดคุยด้วยยาก   ยกเว้นแต่คนระดับเดียวกัน ซึ่งยิ่งตำแหน่งหน้าที่เราสูงขึ้นเท่าใดก็ยิ่งมีคนแวดล้อมน้อยคนลงไปเรื่อย ๆ  จนมีการรำพึงว่า  “ยิ่งสูงยิ่งหนาว”  หมายถึงว่ายิ่งทำงานบริหารสูงขึ้นก็ยิ่งมีเพื่อนน้อยลง โต๊ะทำงานก็ปลีกวิเวก หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นใคร  ไม่เหมือนสมัยเป็นผู้ตามมีเพื่อนคุยด้วยเป็นฝูงเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตามก็อยากจะแนะนำคนเป็นนักบริหารว่าควรทำตัวเป็นคนที่ลูกน้อง “สัมผัส”ได้  หมายความว่าเป็นคนที่ลูกน้องกล้าพูดกล้าคุยด้วย   ไม่ใช่วางตัวเป็นคนน่าเกรงขามคนทำงานด้วยไม่กล้าเข้าใกล้ อย่าว่าแต่พูดคุยเลยแค่สบตายังไม่ค่อยจะบังอาจ กราดหน้าไปทางไหนก็เห็นแต่คนก้มหน้าก้มตาไม่ค่อยมีใครสู้สายตา

อย่าไปภูมิใจแบบไม่เข้าท่าว่าข้าพเจ้าเป็นคนที่มีบารมี  ลูกน้องเกรงกลัว  เดินไปทางไหนในบริษัทลูกน้องทำตัวลีบหลบตากันวูบวาบ   พูดกับใครคนนั้นก็ปากคอสั่นไม่กล้าต่อปากต่อคำด้วย  เพราะถ้าเป็นแบบนั้นโอกาสที่จะทำให้ลูกน้องเข้าใจผิดในตัวเราหรือพฤติกรรมของเรา เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ช่องว่าง”ขึ้นมาได้

“ช่องว่าง”คือความเข้าใจผิด  เราทำบางสิ่งบางอย่างที่ส่งผลกระทบกับคนอื่นด้วยความปรารถนาดี แทนที่จะได้รับความพออกพอใจจากคนที่ได้รับผล  เขากลับไม่พอใจมองความดีที่เราตั้งใจให้เป็นความเลวที่ไม่ปรารถนา  เกิดความไม่พอใจหรือแค้นเคืองหัวหน้าผู้หวังดีไปเสียนี่

ตัวอย่างเช่น  เรามีลูกน้องสิบคน วันหนึ่งเราคิดจะตั้งคนหนึ่งขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของเรา เพื่อให้งานแผนกเราได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพขึ้น  เราเห็นแววแล้วว่าควรจะตั้งใคร  ติดขัดตรงที่สิบคนนี่วัยวุฒิและคุณวุฒิใกล้เคียงกัน ตั้งขึ้นโดยไม่มีปี่หรือขลุ่ยบรรเลงล่วงหน้าละก็ ท่าทางจะเกิดความขัดแย้งในหน่วยงานแน่นอน

เพื่อแก้ปัญหาการไม่ยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน  เราผู้เป็นหัวหน้าก็เลยตั้งใจว่า  ขอเวลาสักเดือนสร้างคนที่เราหมายตาไว้ให้เพื่อน ๆ ยอมรับให้ได้ว่าเป็นคนเก่งคนขยันและเหมาะสมที่จะได้รับการโปรโมท  โดยเพิ่มงานหรือเรียกใช้งานคนดังกล่าวมากกว่าคนอื่น   ทำด้วยความปรารถนาดีแท้ ๆ  แต่เป็นไปได้นะที่คนที่เราหวังดีกลับสงสัยว่า “หัวหน้าจงเกลียดจงชังอะไรเรานักหนา  โยนงานให้เรามากมาย  ทำไมไม่กระจายงานให้คนอื่นบ้าง”

นี่ถ้าเราเป็นคนที่เขาสัมผัสได้คือกล้าพูดกล้าคุยด้วย  เมื่อเขาสงสัยเขาก็คงเดินมาหาเราและสอบถามแบบคนโง่ เอ๊ย.....คนไม่รู้เหตุผล  “หัวหน้า  ทำไมหมู่นี้ถึงมอบหมายงานให้ผมหนักหนากว่าคนอื่นละครับ” ทำให้เราสามารถอธิบายให้เขาฟังได้ว่า  “ผมกำลังหาทางโปรโมทคุณอยู่  อยากให้คนอื่นเห็นว่าคุณเป็นคนทำงานเก่ง  สู้งาน  มอบงานอะไรคุณก็ทำได้  คุณอย่าถามอะไรเลย  ผมส่งงานไปคุณก็รีบทำก็แล้วกัน  ถ้าคุณทำได้สิ้นเดือนอาจมีข่าวดี”

ได้ยินได้ฟังอย่างนี้  คนที่กำลังคิดว่าเจ้านายจงเกลียดจงชังหรือเราแกล้งให้ทำงานหนักก็ย่อมจะเข้าใจ   แทนที่จะโกรธเคืองอาจจะเปลี่ยนเป็นขอบอกขอบใจมีกำลังใจในการทำงานเพิ่มมากขึ้นและที่มั่นใจได้ก็คือเคารพนับถือลูกพี่หรือตัวเรามากขึ้นอย่างแน่นอน

เรื่องความข้องใจที่จะลงเอยแบบแฮบปี้เอ็นดิ้งอย่างที่ยกตัวอย่างมานี้ได้  คนที่เป็นนักบริหารต้องเป็นคนที่ลูกน้องไม่เกรงกลัวหรือเกรงบารมีมากจนไม่กล้าพูดคุยด้วย   เห็นเป็นลูกพี่ที่สามารถถามไถ่เพื่อให้หายสงสัยข้องใจได้  นักบริหารแบบนี้แหละครับที่เขาเรียกว่าสัมผัสได้

ถ้าหัวหน้าเป็นคนหน้าตาบึ้งตึงไม่ยิ้มแย้ม ออกหน้ายักษ์ตลอดเวลา ใครถามอะไรก็มักออกอารมณ์ไม่พอใจแบบ “อะไรวะ แค่นี้ก็สงสัยด้วย”   บางทีก็ตอบอย่างเสียไม่ได้และมีท่าทีไม่สบอารมณ์ทุกครั้งที่ถูกตั้งคำถาม บางครั้งโมโหโทโสตวาดหรือตะคอกใส่  มีความรู้สึกว่า  “เห็นกูเป็นจำเลยหรือไง”  หัวหน้าแบบนี้มีไม่น้อยนะครับ  บนจอทีวีก็มีให้เห็น ลองสังเกตุดูซี

ถ้าเป็นคนอารมณ์เสียแบบนี้ลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาก็คงไม่กล้าถาม   ใครละครับที่อยากจะแกว่งปาก เอ๊ย.....แกว่งเท้าหาเสี้ยน อยู่ดีไม่ว่าดีถามให้โดนด่าไปทำไม  เมื่อไม่ถามก็คงจะจินตนาการไปเองว่าคง อย่างนี้มั๊งหรืออย่างโน้นมั๊ง  คิดไปในทางดีก็แล้วไป  แล้วถ้าคิดไปในทางร้ายละ  ก็น่าจะไม่ส่งผลดีต่อการเป็นหัวหน้าลูกน้องกันต่อไป  จริงไหมครับ

สิ่งที่อาจเกิดขึ้นอีกได้ก็คือ  คนไทยทั่วไปนั้นมักทนความสงสัยไม่ใคร่ไหว  มันอึดอัดแน่นคับอก ต้องหาทางคลายข้อสงสัยให้ได้   อาจใช้วิธีถามคนโน้นคนนี้ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้นทำไมถึงเป็นอย่างนี้  บางทีไม่รู้จะถามใครที่อยู่ใกล้ชิด  ก็อาจจะเขียนไปถามผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็เห็นประพฤติกันอยู่

คนถูกถามก็เหมือนกัน บางทีก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางกับเขาหรอก  แต่พอมีคนถามก็อดจะตอบไม่ได้อาจไม่อยากให้คนถามผิดหวังก็ได้   ตอบแนะนำดี ๆ ก็แล้วไป   แต่บางทีอาจพาเข้ารกเข้าพงทำให้เรื่องดี ๆ กลายเป็นเรื่องเลวร้ายเข้าใจผิดกันใหญ่โตก็เป็นไปได้

อย่างเรื่องที่สมมุติขึ้นมาข้างต้น เกิดลูกน้องเราที่ตั้งใจจะสร้างให้เป็นผู้ข่วย   ไปถามใครไม่ถาม  ดันไปถามคนที่มันนึกว่าเป็นเพื่อนกับเรา โดยไม่รู้ว่าไอ้หมอนั่นเป็นเพื่อนเราก็จริง ๆ  แต่ลึก ๆ แล้วมันอิจฉาริษยาเราอยู่   เพราะเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันก็จริงแต่เราก้าวหน้าในการทำงานมากกว่ามัน   ถามไปก็ได้เรื่องยาวทันที  เพราะมันจ้องรอหาจังหวะอย่างนี้มานานแล้ว

พอโดนถามว่า “พี่ ๆ รู้ไหม  ทำไมเพื่อนพี่เขาถึงเพิ่มงานผมมากกว่าคนอื่น”  แทนที่มันจะตอบแบบตรงไปตรงมากลับย้อนถามให้ลูกน้องเราสดุ้ง  “โดนเข้าแล้วหรือน้อง”

เจอคำตอบสะดุดหูอย่างนั้น คนถามก็ละล่ำละลักถามต่อไปทันที “หมายความว่าไงพี่”  “ไม่มีอะไรหรอก  เพื่อนกูก็ยังงี้แหละ  มันจะแกล้งใครก็จะเริ่มด้วยการเพิ่มงาน   ใครทำไม่ได้ มันก็จะรายงานว่า  หย่อนสมรรถภาพ   ถึงทำได้มันก็เพิ่มงานให้อีกจนกว่าจะทำไม่ได้  เสร็จมันทุกราย”

“แล้วผมทำยังไงดีละนี่”  “กูแนะนำได้  แต่มึงจะกล้าทำหรือ”

“ทำอย่างไรหรือครับ”  “หาทางฆ่ามันเสีย”

นี่ถ้าเกิดลูกน้องเราหลงเชื่อไอ้บ่างช่างยุเข้าก็ดูท่าว่าเราจะตกที่นั่งอันตราย   แล้วคนเราโดยธรรมชาติมักจะหลงเชื่อเรื่องอะไรร้ายง่ายๆ  ว่าไหมครับ

ทางที่ดีปรับปรุงบุคลิกภาพเราให้เป็นคนที่ลูกน้องกล้าพูดกล้าคุยกล้าถาม  อย่ามีอารมณ์เวลาถูกลูกน้องซักไซร้ไล่เรียง  ถ้าเราแสดงท่าทางเต็มอกเต็มใจอธิบายข้อสงสัยของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกครั้งที่ถูกถาม   เวลาเขามีข้อข้องใจอะไรเขาก็จะมาพูดคุยกับเรา  แทนที่จะปรึกษาหารือกับคนอื่นซึ่งอาจจะชักนำไปสู่ความเข้าใจผิดหรือเข้าใจผิดมากขึ้น

เพราะฉะนั้น วิธีป้องกันไม่ให้เกิด “ช่องว่าง”หรือความเข้าใจผิดที่ผู้ใต้บังคับบัญชามีต่อคนเป็นเจ้านาย   นักบริหารต้องพยายามทำตนเป็นคนที่ลูกน้อง “สัมผัส”ได้  คือกล้าพูดคุยซักถามเมื่อมีข้อสงสัยหรือข้องใจต่อพฤติกรรมหรือการปฏิบัติของหัวหน้า

Mostview

นี่คือเหตุผล เพราะอะไรการทำงานหนักไม่การันตีว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป

ทุกคนมักคิด และถูกปลูกฝังมาตลอดว่าให้ทำงานหนักเข้าไว้ แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่นี่อันเป็นความเชื่อที่ผิดก็ได้ หากเราตั้งข้อสงสัยว่า “ความหมายการทำงานหนักที่แท้จริงคืออะไร?” ทำไมผู้คนต่างทำตาม และดิ้นรนให้เกิดขึ้นจริง

เศรษฐกิจไม่ดี! KFC-Pizza Hut ในจีน ดึงกลยุทธ์สุดฤทธิ์เรียกลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด

Yum China Holdings เจ้าของ KFC และ Pizza Hut เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในจีน วางแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มในพื้นที่ที่ยังไม่เคยเปิด โดยใช้กลยุทธ์ขายเมนูในราคาต่ำเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาในจำนวนมาก

CARS24 ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มือสองยุติดำเนินกิจการในไทยอย่างเป็นทางการ

CARS24 ธุรกิจซื้อ-ขาย-เทิร์น รถยนต์มือสอง ได้ยุติกิจการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยในแถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า

เกษตรกรเวียดนามไม่ทนหันปลูกทุเรียนส่งออกจีนแทนปลูกกาแฟที่ขาดแคลน แถมราคาถูกกว่า

ราคากาแฟโรบัสต้าทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเวียดนามซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟรายใหญ่ที่สุด กำลังต่อสู้กับภัยแล้ง รวมถึงเกษตรกรได้เปลี่ยนมาปลูกทุเรียนแทน

แม็คโคร-โลตัส ไตรมาสแรกปี 2567 ทำรายได้รวม 127,020 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เผยผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/67 พบว่ามียอดรายได้รวม 127,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน

SmartSME Line