ในยุคสมัยนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคที่มีการแข่งขันของธุรกิจที่มากขึ้นเรื่อยๆ และที่แน่นอนในยุคที่พัฒนาไปข้างหน้ามีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้คนมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น แอพเรียกแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซต์รับจ้างที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวกรุงได้เป็นอย่างดี โดยที่ผู้โดยสารเองไม่จำเป็นที่จะต้องไปยืนตากแดด ตากฝนริมถนน แถมยังช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการปฏิเสธผู้โดยสารที่เป็นปัญหาคู่สังคมเรามานาน ซึ่งทำให้แท็กซี่และมอเตอร์ไซต์รับจ้างที่เลือกผู้โดยสารได้ลูกค้าน้อยลงจากการมีแอพเหล่านี้เข้ามา นอกจากนี้ยังมีแอพที่ทำให้เราสามารถนำบ้านของเรามาเป็นที่พักให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนธุรกิจโรงแรม ทำให้ธุรกิจโรงแรมมีคู่แข่งมากขึ้นและยังต้องเสียภาษีเพิ่มมาอีกด้วย นอกเหนือจากนั้นในตอนนี้เกษตรกรไทยก็สามารถขายผลผลิตให้กับผู้บริโภคโดยตรงได้แล้วโดยที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าแม่ค้าคนกลาง ซึ่งทำให้เกษตรกรไทยสามารถกำหนดราคาขายตามจริงได้ ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้เป็นผลมาจากเทคโนโลยีหรืออินเตอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทในยุคนี้มากขึ้น อำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคได้หลากหลายทาง ทำให้ปัญหาต่างๆหมดไป โดยรูปแบบต่างๆทางสังคมในปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว น้อยคนที่จะไม่รู้จักแอพเฟสบุ๊ค ไลน์ แกร็บแท็กซี่ หรืออีกหลายๆแอพที่สามารถสร้างรายได้มหาศาล โดยบางบริษัทสามารถสร้างรายได้มากกว่างบประมาณแผ่นดินของประเทศเสียอีก ซึ่งบางบริษัทก่อตั้งได้ไม่นานแต่สามารถทำกำไรและส่งผลกับการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันได้อย่างมหาศาล การเตรียมความพร้อมที่จะทำให้ SMEs ก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ได้นั้นจะต้อง 1. เปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิมเป็นไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ เน้นการบริหารจัดการและเทคโนโลยี เน้นการเป็นเกษตรกรแบบที่เป็นผู้ประกอบการ 2. เปลี่ยนจาก SMEs ดั้งเดิมที่รัฐต้องช่วยเหลือตลอดเวลา ไปสู่ SMEs ที่มีศักยภาพสูง 3. เปลี่ยนจากการบริการแบบเดิมที่มีมูลค่าค่อนข้างต่ำไปสู่การบริการแบบใหม่ที่สามารถสร้างมูลค่าที่สูงขึ้น 4. เปลี่ยนจากแรงงานที่มีทักษะต่ำ ไปสู่แรงงานที่มีทักษะสูงขึ้น ผู้ประกอบการที่ยังดำเนินธุรกิจแบบเดิมๆควรไตร่ตรองดูให้่ดีว่าเราควรจะปรับเปลี่ยนหรือควรจะเพิกเฉยกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยเหล่านี้ เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจในอนาคตข้างหน้า สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นคำถามที่ผู้ประกอบการต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง