วันพุธ, พฤษภาคม 15, 2567

"Vidal Sassoon" ผู้พลิกวงการแฟชั่นผม

by Smart SME, 23 ธันวาคม 2559

ผู้ได้รับฉายาว่า อัจฉริยะแห่งวงการเส้นผม” เป็นผู้ที่ได้รับชื่อเสียงในเรื่องของการออกแบบทรงผม บ๊อบ มากที่สุดในทศวรรศ 1960 ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งร้านออกแบบทรงผมที่มีเครือข่ายมากมาย และมีผลิตภัณฑ์รักษาเส้นผมทั้งยาสระผมและครีมนวด ในชื่อว่า วีดัล แซสซูม เขาเกิดวันที่ 17 มกราคม 1928 ที่อำเภอสมิธ ลอนดอนสาธารณราชอณาจักร ในปี 1963 เขาเริ่มเป็นที่สนใจในวงการแฟชั่นจากการที่เขาได้ออกแบบทรงผมให้กับดารา ฮอลลีวูดชื่อดัง หลายต่อหลายท่าน จนกลายมาเป็นทรงผมสุดฮิตในช่วงเวลานั้นๆ ในปี 1964 วิดัล แซสซูม ก็ได้แสดงผลงานให้โลกได้ประจักษ์อีกครั้ง ด้วยการรังสรร ทรงผมแบบ 5 point cut ทรงผมซอยสั้นเผยให้เห็นต้นคอ ตัดปลายแหลมไว้ที่ข้างหูและรูป ตัว ดับเบิ้ลยู ไว้ที่ท้ายทอย จากการผสมผสานความคลาสิคกับรูปทรงเลขาคณิตที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากศิลปะยุคโมเดิร์น ทำให้ทรงผมนี้เป็นกระแสใหม่ไปทั่วทั้งลอนดอน ผลงานของเขายังสร้างความฮือฮาให้กับวงการแฟชั่นอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบันนี้ จากการรังสรร แฟชั่นทรงผมร่วมกันหลากหลายแบรนด์ ไฮเอ้น  บนรันเวย์ และการสนับสนุนโชว์ระดับโลก อย่างงาน “ลอนดอน แฟชั่นวีค วิดัล แซสซูม ยังเคยกล่าวไว้ว่า ถ้ามันดีพอสำหรับเขามันก็ดีพอสำหรับผม เพราะถ้าพวกเขาดูไม่ดีผมก็ดูไม่ดีด้วยเช่นกัน” ถึงแม้ปัจจุบันวิดัล แซสซูม เขาได้จากไปแต่ผลงานของเขายังได้ถูกส่งต่อในทุกยุคทุกสมัยผ่านสถาบันออกแบบทรงผม แซสซูม อคาเดมี่ซาลอน”  ที่มีมากกว่า 33 สาขา ทั่วโลก และยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม วิดัล แซสซูม”

Mostview

4 สิ่งของคนเลี้ยงลูกประสบความสำเร็จไม่เคยสอนตอนเมื่อลูกยังเล็ก

ครอบครัวถือเป็นสถาบันหลักสำคัญในการสั่งสอนลูกว่าจะเป็นคนอย่างไร โดยช่วงเวลาที่ผ่านมาเราได้ยินว่าควรทำอย่างไรกับลูกของเรา และเรื่องไหนที่ไม่ควรทำกับลูกของเรา

แม็คโคร-โลตัส ไตรมาสแรกปี 2567 ทำรายได้รวม 127,020 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เผยผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/67 พบว่ามียอดรายได้รวม 127,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน

เกษตรกรเวียดนามไม่ทนหันปลูกทุเรียนส่งออกจีนแทนปลูกกาแฟที่ขาดแคลน แถมราคาถูกกว่า

ราคากาแฟโรบัสต้าทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเวียดนามซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟรายใหญ่ที่สุด กำลังต่อสู้กับภัยแล้ง รวมถึงเกษตรกรได้เปลี่ยนมาปลูกทุเรียนแทน

SmartSME Line