วันศุกร์, เมษายน 26, 2567

Trend Micro คาดการณ์ปี 2560 ภัยเทคโนโลยีคุกคามน่ากลัวและรุนแรงมากขึ้น

by Smart SME, 16 มกราคม 2560

เทรนด์ไมโคร อินคอร์ปอเรทเต็ด ผู้นำด้านโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก เปิดเผยรายงานคาดการณ์ประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในชื่อ “The Next Tier – 8 Security Predictions for 2017” ซึ่งคาดการณ์ว่าปี 2560 จะเกิดการโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้างและเจาะลึกมากขึ้น โดยนักโจมตีที่มุ่งร้ายจะใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างหลากหลายเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลง "ในปี 2560 อุตสาหกรรมด้านการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จะก้าวสู่ยุคใหม่หลังจากที่ภัยคุกคามของปี 2559 ได้เปิดทางให้อาชญากรไซเบอร์ใช้รูปแบบตรวจสอบช่องโหว่เพื่อการโจมตีและใช้ช่องทางการโจมตีที่หลากหลายมากขึ้น" คุณปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "วิธีการโจมตีใหม่ๆ จะคุกคามองค์กรต่างๆ มากขึ้น กลยุทธ์การใช้แรนซั่มแวร์ หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ต่างๆ มาก" โดยในปี 2559 มีการพบช่องโหว่บนแพลตฟอร์มของ “แอปเปิล” เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก โดยมีรายงานราว 50 รายการ พร้อมด้วยบั๊ก 135 รายการ ในโปรแกรมของ อโดบี และอีก 76 รายการที่ส่งผลกระทบต่อแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ การโจมตีช่องโหว่ซอฟต์แวร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้จะยังคงมีต่อไปในปี 2560 ในขณะที่ไมโครซอฟท์พยายามปรับปรุงมาตรการป้องกันและระบบปฏิบัติการของแอปเปิลจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2559 อินเทอร์เน็ตของสิ่งของ (IoT) และอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตของสิ่งของ (IIoT) จะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีมากขึ้น  โดยการโจมตีเหล่านี้จะใช้ประโยชน์จากการยอมรับอุปกรณ์ที่ถูกเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นโดยการค้นหาช่องโหว่ และระบบที่ไม่มีความปลอดภัยเพื่อทำลายกระบวนการทางธุรกิจเหมือนกับที่เราเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากมัลแวร์  Mirai การเพิ่มขึ้นของอุปกรณ์พกพา และระบบควบคุมจอภาพในการผลิต และสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมจะทำให้มีการพบจำนวนช่องโหว่สำคัญๆ ในระบบเหล่านี้ที่ซึ่งเป็นภัยคุกคามองค์กร คุณคงศักดิ์ ก่อตระกูล ผู้จัดการอาวุโสด้านเทคนิค บริษัท เทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่ารายงานได้คาดการณ์ว่าการหลอกให้โอนเงินผ่านอีเมล์  (BEC) และปัญหาข้อมูลรั่วไหล  (BPC) จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นวิธีการหลอกลวงที่ง่าย และมีค่าใช้จ่ายน้อยมาก การโจมตีแบบหลอกให้โอนเงินผ่านอีเมล์อาจสร้างรายได้ให้อาชญากรไซเบอร์ได้ถึง 140,000 เหรียญสหรัฐโดยล่อพนักงานที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์โอนเงินไปยังบัญชีของอาญากร หรืออีกวิธีหนึ่งคือการเจาะเข้าไปในระบบธุรกรรมทางการเงินโดยตรงในขณะที่ระบบทำงานอยู่ แม้ว่าวิธีนี้จะทำได้ค่อนข้างยาก แต่หากทำสำเร็จก็สามารถทำเงินก้อนใหญ่ได้ ซึ่งบางครั้งอาจสูงถึง  81 ล้านเหรียญสหรัฐ คุณคงศักดิ์กล่าวเสริมว่า “เราพบว่าอาชญากรไซเบอร์พัฒนาตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป  ในขณะที่แม้ว่าจะมีแรนซัมแวร์รุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในปี 2559 แต่การเติบโตนั้นก็ไม่ยั่งยืนอีกต่อไป ดังนั้นนักโจมตีจะมองหาหนทางใหม่ๆ ในการใช้มัลแวร์ที่มีอยู่ ในขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน IoT จะเปิดช่องทางใหม่ๆ ให้มีการโจมตีเพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงในส่วนของซอฟต์แวร์จะผลักดันให้อาชญากรค้นหาจุดอ่อนในรูปแบบที่ต่างออกไป” ด้านภาพรวมทางธุรกิจ สำหรับปี 2560 นั้น คุณปิยธิดา เปิดเผยว่า “ภาพรวมธุรกิจของบริษัท เทรนด์ไมโคร(ประเทศไทย) ปี 2559 เติบโตสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากประเทศสิงคโปร์ สำหรับเซ็กเมนต์ที่เติบโต ได้แก่ กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจน้ำมันและพลังงาน และกลุ่มธุรกิจค้าปลีก สำหรับในปี 2560 นี้เทรนด์ไมโครจะเน้นทำตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจการเงินการธนาคาร ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ธุรกิจค้าปลีก และสถาบันการศึกษาต่างๆ พร้อมทั้งตั้งเป้ายอดขายปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้สูงขึ้น” และเพื่อรับมือกับการหลอกให้โอนเงินผ่านอีเมล์  (BEC) และปัญหาข้อมูลรั่วไหล (BPC) ที่มีแนวโน้มจะเป็นภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปี 2560  เทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) ได้เปิดตัว  2 โซลูชั่นด้านการป้องกันภัยคุกคามใหม่ XGen Endpoint Security และ TippingPoint IPS ที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถป้องกัน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากภัยคุกคามดังกล่าว

Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

SmartSME Line