นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมจัดทำแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี เพิ่มรายได้ให้กับประเทศ เพื่อเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว โดยเป็นแผนระยะสั้น มีสาระสำคัญ คือในส่วนของสินค้า ต้องเข้มงวดการลักลอบการจัดเก็บภาษีป้องกันการรั่วไหล และในส่วนของบริการ เช่น การจัดเก็บสนามม้า สนามกอล์ฟ และสถานบริการ โดยจะร่วมกับกรมสรรพากสุ่มตรวจ คาดว่าจะทำให้การจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5-10 จากเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ในปี 2560 ที่ 555,000 ล้านบาท โดยการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 จัดเก็บได้ 220,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าอยู่ 2,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จัดเก็บได้ต่ำในเดือน ต.ค. 2559 จากที่ผ่านมายังอยู่ในช่วงซบเซาจากสถานการณ์สำคัญของประเทศ ทำให้สถานบริการต่าง ๆ หยุดทำการ แต่เชื่อว่าจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจะสนับสนุนให้ภาพรวมการจัดเก็บรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่การแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สรรพสามิต ถือเป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรม โดยเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บภาษีจากฐานราคาหน้าโรงงาน หรือราคาขายส่งช่วงสุดท้ายสำหรับสินค้าประเภทสุรา เบียร์ และราคาสำแดงนำเข้า (ซีไอเอฟ) มาเป็นฐานราคาขายปลีก ซึ่งจะช่วยให้การจัดเก็บภาษีมีความเป็นธรรมมากขึ้นแล้ว โดยการปรับในครั้งนี้ได้มีการพิจารณาปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และค่าเงินบาทในช่วง 20 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ อธิบดีกรมสรรพสามิต ยังกล่าวอีกว่า ผลการปราบปราม 5 เดือนในปีงบประมาณ 2560 มีการจับกุมและดำเนินคดีตามความผิดพระราชบัญญัติสุรา 12,200 คดี , พ.ร.บ.ยาสูบ 6,844 คดี , พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต 991 คดี และพ.ร.บ.ไพ่ 4 คดี รวมเป็นเงินค่าปรับทั้งสิ้น 228 ล้านบาท