“ROCKINGCHOO” แบรนด์เสื้อผ้าเด็ก “จากความชอบ สู่ความใช่”
by Smart SME, 27 มีนาคม 2560
เรื่องราวความลงตัวของแบรนด์เสื้อผ้าเด็ก “ROCKINGCHOO” “ ที่เกิดจากนำของใกล้ตัวที่ต้องซื้อใช้ในชีวิตประจำวัน นำมาสู่ธุรกิจร้านเสื้อผ้าเด็กในแบบฉบับของตนเอง โดยคุณสรสักก์ แก้วชนะชัย และคุณพีรยา วิรุณรัตนกิจ คู่สามีภรรยา ที่แต่งงานกันมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนได้มองเห็นโอกาสการซื้อผ้าเด็กไว้ให้ลูกใส่ในราคาย่อมเยาว์เมื่อซื้อเป็นจำนวนมาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ ROCKINGCHOO ที่จำหน่ายเสื้อผ้าเด็กทั้งแบบขายปลีกและขายส่งสรสักก์ แก้วชนะชัย เล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจว่า "ผมกับคุณพีรยา แต่งงานมา 4 ปีกว่า พยายามทำทุกวิธีทาง แต่ไม่มีลูกซักที เลยมองข้ามไปถึงเรื่องเสื้อผ้า ว่าถ้ามีลูกอยากให้ใส่ในสไตล์ที่เราชอบ เลยเริ่มหันไปมองธุรกิจเสื้อผ้าเด็ก จากการศึกษาพบว่าในตลาด เสื้อผ้าเด็กสวยๆ คุณภาพดี จะมีราคาค่อนข้างแพง บางแห่งคุณภาพไม่ดีนักเมื่อเทียบกับราคาที่ขาย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เราทำแบรนด์เสื้อผ้าเด็กที่คุณภาพ สอดคล้องกับราคา และไม่แพงเกินไป" สำหรับจุดเด่นของ “ROCKINGCHOO” คือเราพยายามขาย เสื้อผ้าผู้ใหญ่ ที่ย่อสเกลลงมาเป็นเด็ก ให้ใส่แล้ว เหมือนพ่อกับแม่เดินกับเพื่อนตัวเล็กๆ (ไม่เหมือนเดินกับลูก) ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพราะเราคิดว่า ถ้าเรามีลูก ลูกเราคงโตเร็วมาก การที่จะไปซื้อเสื้อผ้าราคาหลักพัน คงไม่ไหว เราเลยคิดแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา คือตั้งราคาที่พอรับได้ ไม่แพงเกินไป เอาแบบที่คิดในใจว่า “ไหวๆ” ประมาณนี้คับ
"ต้องมองภาพรวมในตลาดเสื้อผ้าเด็ก อย่างที่ทราบคือ มีเยอะมาก คู่แข่งตอนนี้ มีหลายแบรนด์ เรามองตัวเอง ว่าเราชอบแบบไหน ถ้าเกิดมีลูก อยากให้เค้าเป็นแบบไหน อยากให้แต่งตัวยังไง ไม่ว่าจะเป็นลูกชาย หรือลูกสาว ซึ่ง เราพยายามมองจากมุมที่ชอบของเรา แล้วค่อยตีล้อมเข้าไปหาตลาด จะทำให้เราเข้าใจและต่อยอดความชอบ ความถนัดของเราให้กลายเป็นธุรกิจได้"ขอบคุณข้อมูลธุรกิจ เสื้อผ้าเด็กแบรนด์ ROCKINGCHOO (ผู้ได้รับรางวัลจากกิจกรรมฝากร้านฟรี กับ Smartsme) www.facebook.com/rockingchoo Instagram ROCKINGCHOO
Mostview
4 สิ่งของคนเลี้ยงลูกประสบความสำเร็จไม่เคยสอนตอนเมื่อลูกยังเล็ก
ครอบครัวถือเป็นสถาบันหลักสำคัญในการสั่งสอนลูกว่าจะเป็นคนอย่างไร โดยช่วงเวลาที่ผ่านมาเราได้ยินว่าควรทำอย่างไรกับลูกของเรา และเรื่องไหนที่ไม่ควรทำกับลูกของเรา
แม็คโคร-โลตัส ไตรมาสแรกปี 2567 ทำรายได้รวม 127,020 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท
บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เผยผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/67 พบว่ามียอดรายได้รวม 127,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน
เกษตรกรเวียดนามไม่ทนหันปลูกทุเรียนส่งออกจีนแทนปลูกกาแฟที่ขาดแคลน แถมราคาถูกกว่า
ราคากาแฟโรบัสต้าทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเวียดนามซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟรายใหญ่ที่สุด กำลังต่อสู้กับภัยแล้ง รวมถึงเกษตรกรได้เปลี่ยนมาปลูกทุเรียนแทน
คนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บสำหรับการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท
ภายในงาน KKP Financial Talk: Money Master #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้ ซึ่งมีการพูดถึงปัญหาและคำแนะนำให้กับ Sandwich Generation ผู้แบกภาระการดูแลทั้งคนรุ่นก่อน และรุ่นหลังไว้ ในขณะที่เศรษฐกิจไม่เกื้อหนุนให้พวกเขาได้สบายขึ้น