ผู้คนราวๆ 100,000 คนต้องพบกับความเสี่ยงว่างงาน หลังจากผู้บัญญัติกฎหมายสูงสุดของสหภาพยุโรป ออกมาเตือนว่า ธุรกิจด้านการเงินที่ใช้สกุลเงินยูโร จะต้องย้ายออกจากสหราชอาณาจักรไปยังสหภาพยุโรป Manfred Weber หัวหน้าพรรคประชาชนยุโรป (European People’s Party) ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในรัฐสภายุโรป กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับธุรกิจที่ใช้สกุลเงินยูโร ยังคงตั้งอยู่ในลอนดอน โดยผู้คนคาดหวังว่าธุรกิจที่ใช้สกุลเงินยูโรจะมีความเชื่อมโยงกันในยุโรป ซึ่ง EU ควรจะสนับสนุนฮับทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น ปารีส แฟรงเฟิร์ต ดับลิน และ อัมสเตอดัม ด้าน Xavier Rolet หัวหน้าตลาดหลักทรัพย์ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า ธุรกรรมทางการเงินสามารถทำทุกที่ได้บนโลกใบนี้ และลอนดอนคือศูนย์กลางในเรื่องนี้ ซึ่งในแต่ละวันมีการทำธุรกรรมทางการเงินกว่า 440 พันล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของ EU ออกมาย้ำว่าลอนดอนไม่สามารถรักษาธุรกิจที่ใช้สกุลเงินยูโรได้อีกต่อไป Rolet กล่าวเพิ่มเติม ข้อเสนอดังกล่าวทางผู้บริหารของสหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สรุปชัดเจนในเรื่องประเด็นข้อตกลงกับ Brexit โดยในเดือนกันยายน EU เริ่มพูดคุยแผนงานเพื่อจำกัดการซื้อ-ขายเงินสกุลยูโรให้มีการดำเนินงานคล้ายกับนิวยอร์ค ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อจำกัดที่คล้ายกันจึงต้องมองไปที่ลอนดอน เมื่อพวกเขาออกจาก EU ทั้งนี้ ธนาคารกลางเชื่อว่าการทำธุรกิจต้องอยู่ในเขตยูโรโซน เพื่อความสะดวกในการควบคุม ดูแลกิจการ ที่เป็นอันตรายต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้อง เรียบเรียงจาก independent