คงมีหลายคนเคยได้ยินมาบ้างว่าความมุ่งมั่นตั้งใจมาก ๆ ในการทำงานบางครั้งเป็นสาเหตุให้คนทำงานเกิดความเครียดไม่มากก็น้อยได้เหมือนกัน และเมื่อเกิดความเครียดแล้วแต่ละคนจะมีปฏิกิริยาแตกต่างกันออกไป บางคนอาจปวดศรีษะ แบบไมเกรนกำเริบ บางคนท้องอืด ท้องเฟ้อ บางคนหงุดหงิดอารมณ์เสียง่าย บางคนถอนผม บางคนกัดหรือฉีกเล็บ บางคนนั่งเขย่าขาโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนให้คุณรีบผ่อนคลายความเครียดได้แล้ว ด้วยวิธีการต่าง ๆ มาแนะนำดังต่อไปนี้

1. ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีทุกวัน หรืออาทิตย์ละ 3 วัน
2. พักผ่อนหย่อนใจ หามุมสงบสบาย ๆ นั่งพัก หากนั่งทำงานทั้งวันควรลุกเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง หรือหลังเลิกงงาน หากิจกรมที่ชอบทำ
3. ใช้คำพูดที่ชวนฟัง ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน
4. จัดการอารมณ์อย่างเหมาะสม ตั้งสติไตร่ตรองถึงสิ่งที่เกิดขึ้น คิดถึงผลดี ผลเสียที่จะตามมา
5. สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน ยิ้มแย้ม แจ่มใส เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
6. รู้จักบริหารเวลา แบ่งเวลาอย่างเหมาะสม เช่น ทำงานที่สำคัญหรือเร่งด่วนก่อนแล้วจึงทำงานอื่นภายหลัง
7. แสดงความคิดเห็นในทางสร้างสรรค์ กล้าบอกความต้องการของตนเองสิทธิที่ควรจะได้รับ และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
8. สร้างความเข้มแข็งทางจิตใจให้ตนเองให้กำลังใจและชื่นชมตนเองบ้างเมื่อทำอะไรสำเร็จ
9. รู้จักเก็บออม โดยฝึกให้เป็นนิสัย การมีเงินออมจะทำให้มีความรู้สึกมั่นคงทางจิตใจ
10. รู้จักแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี หาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาและแก้ที่ต้นเหตุ อย่าแก้ปัญหาด้วยอารมณ์ หรือขอรับการปรึกษาทางโทรศัพท์ที่ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง

ความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับการทำงานเป็นสิ่งดี แต่ถ้าให้ถึงกับเครียดจนเกิดไปก็ไม่ใช่สิ่งที่ควร เพราะเมื่อเกิดความเครียดขึ้นแล้ว นอกจากจะทำให้ไม่ได้งานดีอย่างที่ตั้งใจไว้แล้ว ยังส่งผลเสียด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย ทำให้เสียความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด ทั้งผู้ร่วมงานและคนในครอบครัว ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ดังนั้น การรู้จักผ่อนคลายความเครียดจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยคลายเครียดและเสริมสุขภาพจิตที่ดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เกิดบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ทำให้มีความสุขในชีวิตมากขึ้น   ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร กรมสรรพกร ฉบับที่ 58 ประจำเดือน มีนาคม 2560