หากคุณทำแบบนี้ในสปป.ลาว รับรองธุรกิจร่วงแน่
by Smart SME,
23 พฤษภาคม 2560
สปป.ลาวเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม CLMV ที่มีอาณาเขตติดอยู่กับเพื่อนบ้าน 5 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น จีน เมียนมา ไทย เวียดนาม และกัมพูชา ในประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ โดยแผนยุทธศาสตร์ของ สปป.ลาว ระบุไว้ว่าประเทศที่ให้สำคัญ คือเวียดนาม ตามมาด้วยจีน เมียนมา กัมพูชา และไทย ตามลำดับ
เหตุใด…ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
เห็นแบบนี้แล้วหลายคนอาจตกใจ ว่าทำไมประเทศไทยถึงถูกให้ความสำคัญเป็นลำดับสุดท้าย เพราะที่ผ่านมาสปป.ลาว กับไทยมีความสัมพันธ์ฐานะเพื่อนบ้าน รวมถึงในเรื่องวัฒนธรรม ภาษา อาหารการกิน ที่มีความคล้ายคลึงกัน แล้วเหตุผลอะไรถึงไม่ให้ความสำคัญกับไทยมาเป็นอันดับแรก
สองเหตุผลหลักๆเลย คือ 1. คำว่า “บ้านพี่ เมืองน้อง” ถ้านักลงทุนอยากจะเข้าไปค้าขาย ทำธุรกิจในสปป.ลาว เตือนเลยว่าคำนี้ไม่ควรพูด เพราะหากเอ่ยคำนี้ออกมา จะนำมาสู่ความรู้สึกที่ว่า ใครพี่ ใครน้อง บางครั้งคนไทยอาจจะไม่รู้สึกกับคำพูดนี้ แต่ด้วยพื้นฐานวัฒนธรรมของคน สปป.ลาว นั้นมีความคิดที่ว่าคนทั้งโลกมี่ความเท่าเทียม ทุกประเทศเป็นเพื่อนบ้านกันหมด
2.คำพูดที่คนไทยชอบล้อ สปป. ลาว ทั้งหลาย ซึ่งต้องเข้าใจว่าคนสปป.ลาว มีการเปิดรับสื่อจากฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก ทำให้การกระทำของคนไทยในบางครั้งจะมีความประสงค์ให้ดูสนุกสนาน แต่ฝั่งคนสปป. ลาวไม่สนุกด้วย เหมือนเป็นเหยียดยาม ดูถูก
ดังนั้น หากอยากค้าขายกับคนสปป.ลาว ต้องเปลี่ยนวิธีคิด การประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
ปฏิรูปประเทศ
หลังจาก สปป.ลาว เริ่มปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังในปี 2529 มีการวางแผนด้านต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจของสปป.ลาว ก้าวไปข้างหน้ามากขึ้น โดยในปี 2543 สปป.ลาว เริ่มมองถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเปิดที่แรกที่ “สะหวันนะเขต” ในปี 2546 เป็นจุดเชื่อมระหว่างเวียดนาม สปป.ลาว และไทย ปัจจุบัน สปป.ลาว มีเขตเศรษฐกิจพิเศษกว่า 10 ที่ด้วยกัน
หากมองในนครเวียงจันทร์ ณ ทุกวันนี้ พบว่า มีเมกกะโปรเจกต์อย่างน้อย 5 โปรเจกต์ ที่กำลังสร้างโดยจีน เวียดนาม มาเลเซีย ซึ่งจุดอ่อนของโปรเจต์พวกนี้ คือการนำเอาสินค้าจากจีนเข้าไปขาย ซึ่งคนสปป.ลาว ยังไม่มีความไว้วางใจสินค้าจากจีน โดยเฉพาะของกิน เช่น นมผง ทำให้ทุกวันนี้คนสปป. ลาว ยังคงข้ามมาฝั่งไทยเพื่อซื้อสินค้า อย่างไรก็ตาม วันใดวันหนึ่งศูนย์การค้าเหล่านี้ปรับยุทธศาสตร์นำสินค้าไทยเข้าไปขายโดยตรง วันนั้นคนสปป.ลาวจะไม่ข้ามฝั่งมาไทยอีกต่อไป
ทั้งนี้ การเข้าไปค้าขายในสปป. ลาว หรือในประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ คือเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านมีฝีมือการผลิตสินค้า รสนิยมการใช้ชีวิตคล้ายคลึงกับไทย รวมถึงมีความชอบในสินค้าไทยเป็นทุนเดิม แต่อุปสรรคกลับมาอยู่ที่ตัวเราเองที่ให้ความสำคัญกับเพื่อนบ้านน้อยไป ไม่ให้ความจริงใจ ถ้าเราเปิดใจตั้งใจจะขายของดี มีคุณภาพ เชื่อว่าเราสู้ได้ ขออย่างเดียวอย่าดูถูกกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเป็นพอ
การบรรยาย "โอกาสและทิศทางการค้าการลงทุนไทยในลาว ภายหลังการเปิด AEC" ภายใต้กิจกรรม “Laos Connect : A New Business Opportunity 4.0 เปิดโอกาสเศรษฐกิจใหม่ เชื่อมโยงตลาดลาวในยุค 4.0" โดย อ.เกษมสันต์ วีระกุล (นักวิชาการอิสระ และผู้เชี่ยวชาญตลาด AEC)