รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า สัปดาห์นี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชุมเพื่อสรุปแนวทางการจ่ายเงินผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย หลังจากนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการเพื่อเปิดทางให้ผู้สูงอายุที่มีฐานะดีบริจาคเงินเข้ากองทุน ผู้สูงอายุเพื่อมาจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยเพิ่ม จากนั้นจะเสนอให้นายอภิศักดิ์ ตันติ วรวงศ์ รมว.คลังและครม.เห็นชอบ คาดว่าจะเริ่มรับบริจาคได้ในเดือนพ.ย.นี้ ทั้งนี้ในการประชุมคาดว่าจะหารือถึงแนวทางการเชื่อมโยงระบบการบริจาคเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะเป็นผู้จ่ายเบี้ยให้ผู้สูงอายุซึ่งผู้สูงอายุที่มีฐานะดีที่บริจาคนั้นจะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกรมธนารักษ์ดำเนินการจัดทำอยู่คาดว่าจะออกมาได้เร็ว ๆ นี้ พร้อมทั้งจะเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุที่มีฐานะสมัครใจสละสิทธิได้ตลอดไม่กำหนดวันปิดรับเผื่อว่าปีไหนใครอยากจะสละสิทธิก็สามารถทำได้ สำหรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปัจจุบัน จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มีผู้รับเบี้ยชราภาพทั้งหมด 8 ล้านคน ในจำนวนนี้มีผู้สูงอายุและมีรายได้น้อย 3 ล้านคน ที่เหลือ 5 ล้านคน เป็นผู้สูงอายุที่มีฐานะดีซึ่งหากสละสิทธิจะนำไปเพิ่มให้ในจำนวน 3 ล้านคน ส่วนผู้สูงอายุที่มีฐานะดีถึงแม้จะไม่ได้บริจาคก็จะได้รับสิทธิเบี้ยตามจำนวนเท่าเดิม แนวทางดังกล่าวเพิ่งประชุมไป 2 ครั้ง ส่วนสัปดาห์นี้จะเป็นครั้งที่ 3 คาดว่าจะได้ข้อสรุปแล้ว ที่ผ่านมาติดขัดในขั้นตอนเล็กน้อยเมื่อสรุปได้แล้วจะเสนอรมว.คลังพิจารณา และจะเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตั้งใจว่าอยากจะเริ่มเปิดรับบริจาคตั้งแต่เดือนพ.ย.นี้เป็นต้นไปจากปัจจุบันการจ่ายเบี้ยให้ผู้สูงอายุแบ่งเป็นเข้าผ่านบัญชีธนาคาร 40 % และรับตามหน่วยงานในท้องถิ่นอีก 60 % ทั้งนี้เมื่อกระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินเพิ่มเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยแล้วคาดว่าจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจาก 600 -1,000 บาทต่อเดือนตามอายุของคนแก่เพิ่มเป็น 900- 1,300 บาทต่อเดือน