เงินเฟ้อติดลบ คนไทยกิน อาหารแพง ทั้งในและนอกบ้าน

รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า จากการสำรวจราคาสินค้าอาหารบริโภคในช่วง 11 เดือนของปี 2560 (ม.ค.-พ.ย.) โดยกองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ซึ่งเป็นหน่วยงานสำรวจดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) พบว่าตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนต้องบริโภค อาหารแพง ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออาหารมาทำกินเองที่บ้าน เพราะวัตถุดิบในการปรุงอาหารราคาปรับตัวสูงขึ้น หรือการออกไปบริโภคอาหารนอกบ้านตามร้านอาหาร ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า หรือตามร้านค้าทั่วไปทั้งในตลาดและริมถนน เพราะผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน การเพิ่มขึ้นของราคาอาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้าน ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าอัตราเงินเฟ้อในแต่ละเดือน หรือแม้แต่บางเดือน (พ.ค.-มิ.ย.) ที่เงินเฟ้อติดลบ การขยายตัวของราคาอาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้านก็ยังเพิ่มขึ้น และคาดว่า ผลสำเร็จเงินเฟ้อในเดือนธ.ค.2560 ราคาอาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้าน ก็จะยังปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะทำสถิติราคาสูงขึ้นต่อเนื่องทั้ง 12 เดือน หรือทั้งปีแน่นอน รายงานข่าวแจ้งว่า ปัญหาในการปรับขึ้นราคาอาหารปรุงสำเร็จ ผู้ประกอบการ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้า มักจะอ้างว่าวัตถุดิบราคาสูงขึ้น ซึ่งหากช่วงใดราคาเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ สูงขึ้น ก็จะมีการปรับขึ้นราคาอาหารปรุงสำเร็จในทันที หรือกรณีมีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ก็จะมีการปรับราคาขึ้นตามไปด้วย หรือวัตถุดิบบางอย่างสูงขึ้น ก็จะใช้เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นราคาเช่นเดียวกัน แม้ว่าต่อมาราคาวัตถุดิบในการปรุงอาหารจะลดลง ก็จะไม่มีการปรับลดราคาลงตาม เป็นการขึ้นแล้วขึ้นเลย อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาการบริโภคอาหารปรุงสำเร็จ กระทรวงพาณิชย์ได้ผลักดันให้มีจำนวนร้านหนูณิชย์พาชิมในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนร้านค้ากว่า 1.2 หมื่นแห่งทั่วประเทศ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ราคาอาหารปรุงสำเร็จในภาพรวมให้ลงมาได้ และล่าสุดได้มีการผลักดันร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่เปิดโอกาสให้นำวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ทั้งน้ำมัน น้ำตาล ซอสปรุงรส ไข่ไก่ เนื้อสัตว์ เข้าไปจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด 10-20% ทำให้ต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จต่ำลง แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ราคาปรับตัวลดลงตาม