ปัจจุบันเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกัญชา และกัญชง กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนต่างประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศไทยเอง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์บำรุงผม ผลิตภัณฑ์น้ำหอมและเครื่องสำอางแต่งหน้า ฯลฯ
ประโยชน์จากพืชกัญชง ถูกนำมาใช้ในธุรกิจและเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงการเป็นพืชอาหาร และเครื่องนุ่งห่ม เท่านั้น แต่วันนี้ “กัญชง” ได้กลายเป็นวัสดุก่อสร้างทางเลือก ในหมู่ผู้นิยม “บ้านสีเขียว” ในสหรัฐอเมริกา
ช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจส่วนใหญ่ของทั้งโลก แต่ในทางกลับกันวิกฤตดังกล่าวได้ทำให้ คนทั่วโลกต้องใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น และนั่นจึงเป็นที่มาของการที่ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้น เมื่อคนทั่วโลกใช้การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นกิจกรรมแก้เหงา
“กัญชง” ในประเทศไทย ดูจะได้รับความนิยมน้อยกว่า “กัญชา” ข่าวคราวที่ว่า สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. เปิดขายเมล็ดกัญชง และมีผู้จองกว่า 300 ราย ก็ดูจะเงียบหายไปโดยไม่รู้ว่าข้อสรุปเป็นอย่างไร
ตลาด “กัญชง” เป็นอีกกลุ่มพืชที่น่าสนใจไม่น้อยกว่า “กัญชา” ด้วยสถานะทางกฎหมายที่ดูจะผ่อนคลายกว่า โดยมีหน่วยงานภาครัฐที่เร่งให้การส่งเสริมการปลูกกัญชง โดยเฉพาะกับกลุ่มเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ แล้วในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อย มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนในธุรกิจนี้
มองเห็นช่องทางที่จะทำกำไร สร้างมูลค่าเพิ่มได้ เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายเล็กที่มุ่งสู่ธุรกิจนี้ โดยหวังว่าจะช่วยให้ฟื้นตัวจากวิกฤตการแพร่ะระบาดของโควิด-19
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ ปลูกกัญชง ในระบบเปิด (Outdoor) เพื่อเก็บผลผลิตช่อดอก รวมทั้งเส้นใยกัญชง มีโอกาสสดใสกว่า “กัญชา” ประเมินลงทุนเบื้องต้น 300,000-1,500,000 ต่อไร เกษตรกรคืนทุนใน 4-5ปี
แม้ว่ากฎหมายจะยังไม่อนุมัติให้กัญชงมาผสมกับเครื่องดื่มได้ แต่ทางอิชิตันไม่รอช้าที่จะส่งผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อย่าง “อิชิตัน กรีนแลป” นำร่องตลาดสร้างความคุ้นเคยให้กับผู้บริโภคก่อน
ก่อนเปิดธุรกิจสายเขียว ควรรู้! “กัญชา-กัญชง” แฝดคนละฝา แตกต่างกันอย่างไร? หลังกฎหมายคลายล็อก พ้นสถานะ “ยาเสพติดประเภทที่ 5”
กระทรวงอุตฯ เร่ง สมอ. เร่งประกาศมาตรฐานสารสกัดจากกัญชง เพื่อยกระดับเป็นสินค้า มอก. เตรียมส่งขายเชิงพาณิชย์ออกสู่ตลาดโลกตามนโยบายเกษตรแปรรูป พร้อมโกอินเตอร์