นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การประชุมตรวจเยี่ยมธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank) หรือ ธพว. ว่า ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีของโลกเปลี่ยนแปลงไป แผนดำเนินธุรกิจก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยเฉพาะการค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการคนตัวเล็กจำเป็นที่จะต้องปรับตัว

ตนจึงได้มอบหมายใหกระทรวงอุตสาหกรรมและ ธพว. เข้ามาดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ในด้านต่างๆ ได้แก่

1.การส่งเสริมการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ในการประกอบธุรกิจ ทั้งด้านการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่าย

2.การเข้าถึงสินเชื่อ จะต้องทำให้ผู้ประกอบการรับรู้และเข้าใจในช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อและแหล่งเงินทุน ที่ผ่านมาผู้ประกอบการคนตัวเล็ก มีจำนวน NPL ที่น้อย ไม่มีภาระหนี้ แต่มีปัญหาของแหล่งเงินทุนที่ไม่พอในการหนุมเวียนทำธุรกิจ โดย ธพว.ได้มีโครงการ รถม้าเติมทุน ที่สามารถทำให้ คนตัวเล็กเข้าถึงสินเชื่อได้ภายใน 7 วัน

3.ให้ความสำคัญกับร้านค้าโชห่วย ซึ่งเป็นร้านค้ารายย่อย รวมไปถึงร้านธงฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้ประกอบการรายเล็ก ด้วยการปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบ Point of sale ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าที่นอกเหนือจากที่มีอยู่แล้วในร้านค้า โดยให้กระทรวงอุตฯ และธพว. ร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือและให้ความรู้ ร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชน เช่น ไปรษณีย์ไทย (ปณท) โรงงานผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภค และบริษัทขนส่งสินค้า เพิ่มศักยภาพของร้านโชห่วยเพื่อแข่งขันกับโมเดิร์นเทรดได้

ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการคนตัวเล็ก โดยเน้นในการเข้าถึงพื้นที่ในทุกพื้นที่ คือ สร้างให้เกิด เสริมให้เก่ง ซ่อมให้แกร่ง สร้างผู้ประกอบการใหม่ให้เกิดขึ้น เสริมให้เก่ง ด้วยองค์ความรู้และการเงินเพื่อที่จะสามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ ซ่อมให้แกร่ง ช่วยคนที่ล้มแล้ว แต่ยังมีกำลังใจพร้อมที่จะเดินหน้าให้ลุกขึ้นสู้ต่อไปได้ โดยมุ่งเน้นใน 2 มิติ คือ มาตรการช่วยเหลือด้านการเงิน และการเสริมแกร่งองค์ความรู้

ทั้งนี้ กระทรวงอุตฯ ได้กำหนดโครงการ “โชห่วยประชารัฐ” เพื่อพัฒนาร้านค้ารายเล็ก และกองทุนเพื่อคนตัวเล็ก ในวงเงิน 1,800 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาได้ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ โดยเบื้องต้นกำหนดให้รายละไม่เกิน 100,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องรับการสนับสนุนจาก ธพว. และกระทรวงอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตามโครงการ “โชห่วยประชารัฐ” จะเป็นการส่งเสริมและให้ความรู้กับผู้ประกอบการร้านค้า ให้นำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ โดยธนาคารได้ตั้งเป้าร้านค้าที่จะเข้าสู่ระบบดังกล่าวจำนวน 7 หมื่นรายภายในปีนี้ และ 5-6 แสนรายในปี 2562