วันอังคาร, เมษายน 30, 2567

มังคุด ส้มโอ มะพร้าว ไทยมีแนวโน้มฮิตติดกระแสตลาดผลไม้เวียดนาม

by Smart SME, 13 พฤศจิกายน 2558

ประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บนพื้นที่ 331,689 ตารางกิโลเมตร มีประชากรกว่า 89.7 ล้านคน เมืองสำคัญคือ นครโฮจิมินต์ (ศูนย์กลางธุรกิจการค้า และบริการ ) ไฮฟอง เกิ่นเทอ ดานัง และวินห์ ต่างมีสถานะเป็นเทศบาลนคร บริหารส่วนกลางในระดับเดียวกับจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ  ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน บอกไซต์ โปแตสเซียม เหล็ก ป่าไม้ และเป็นผู้ส่งออกอันดับต้น ๆ พริกไทย ข้าว กาแฟ เม็ดมะม่วงหินมะพานต์ อาหารทะเล ยางพารา

เศรษฐกิจเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง GPD ในช่วงปีแรกของปี 2558 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.28 ถือเป็นอัตราขยายตัวมากที่สุดยับตั้งแต่ปี 2551 และค่าเงินด่องเวียดนามต่อเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ส่งผลให้สินค้านำเข้ามีราคาแพงขึ้น สถานการณ์ทางการค้าในอีกไม่นานวียดนามจะมีการลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งมีหลายประเทศรวมกันได้แก่ เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป กลุ่มประเทศคาซัสสถาน เบราลุส และ TPP ซึ่งจะส่งเสริมการส่งออกของเวียดนามให้ก้าวไปอีกขั้น สำหรับมูลค่าทางการค้าของเวียดนามในปี 2558 ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา เวียดนามมีมูลค่าทางการค้า 187,055 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4 เป็นการส่งออก 91,765 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 และนำเข้า 95,289 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.0

ผลไม้ของเวียดนาม ประเทศเวียดนามและไทย มีผลไม้ที่เหมือน ๆ กัน เรียกได้ว่า ไทยมี เวียดนามก็มี แต่ที่แตกต่างกันคือ รสชาติ ที่บางอย่างเวียดนามอร่อยกว่าไทย เช่น ทุเรียน หรือผลไม้บางอย่างของไทยอร่อยกว่าเวียดนาม เช่น  ลำไย และมะพร้าว เป็นต้น  เนื่องเวียดนามเป็นประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศเป็นเขตมรสุมฤดูร้อน แต่มีความแตกต่างด้านภูมิอากาศอย่างมากระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ดังนั้น เวียดนามสามารถปลูกผลไม้ได้ทั้งผลไม้เมืองหนาวและเมืองร้อน ก่อนหน้านี้ ผลไม้เวียดนามได้แบ่งออกเป็นสองอย่าง คือ ผลไม้ที่ออกตามฤดู ได้แก่ มะม่วง ทุเรียน เงาะ ลำไย น้อยหน่า มังคุด และลิ้นจี้ และผลไม้ที่ออกผลตลอดทั้งปี ได้แก่ สับปะรด กล้วย มะละกอ และขนุน แต่ในปัจจุบันเวียดนามสามารถใช้เทคนิคทันสมัยสามารถทำให้ไม้ผลที่มีมูลค่าการส่งออกสูง สามารถออกผลตลอดทั้งปี เช่น มะม่วง ทุเรียน เงาะ ลำไย ทำให้เวียดนามเป็นประเทศส่งออกผลไม้อันดับต้นของโลก

ไทยส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ไปเวียดนามในปี 2014 มูลค่า 288.24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในงานสัมมนา “ผลไม้ไทยก้าวไกลในตลาดเวียดนาม” คุณนฤสรณ์ บรรณวัชรวงศ์ เจ้าของกิจการห้างหุ้นส่วนเล็ก 63 จำกัด  ได้มาแชร์ประสบการณ์ให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมฟังสัมมนาครั้งนี้ถึงเรื่องการส่งออก พร้อมบอกเล่ากลเม็ดเคล็ดลับมากมาย ที่ในตำราไม่มีบอก โดยคุณนฤสรณ์ ได้บอกว่า “ผลไม้ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของไทยในการส่งออกไปเวียดนาม คือมังคุด ส้มโอ และมะพร้าว เพราะส่งออกได้ง่ายกว่าผลไม้อื่น ๆ เนื่องจากผิวของมังคุดแข็ง และเก็บรักษาได้นานกว่าผลไม้อื่น ๆ ที่เปลือกบาง  ส่วนส้มโอ ในปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมมากในเวียดนาม และมะพร้าว มีแนวโน้มสูงที่ชาวเวียดนามจะชื่นชอบ เนื่องจากน้ำมะพร้าวของเวียดนามมีรสเปรี้ยว ไม่หอมหวานเหมือนของไทย และพฤติกรรมชาวเวียดนามนิยมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ มะพร้าวจึงเป็นผลไม้ที่น่าสนใจในการเข้าไปตีตลาดเวียดนาม แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ คือ  “มด” เนื่องจากเวียดนาม มีความ Sensitive ในเรื่องศัตรูพืช  หากมีโอกาสผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนาม ผู้ประกอบการควรเลือกว่าต้องการทำธุรกิจในตลาด พรีเมียม หรือตลาดล่าง ไม่ควรทำแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ”


Mostview

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line