1.มีความคิดที่แตกต่างและสร้างสรรค์

      ซึ่งหลายๆคนที่ประกอบธุรกิจนั้น มักจะคิดอยู่ในกรอบเดิมๆหรือทำตามธุรกิจอื่นๆที่มีมาก่อน แต่น้อยคนนักที่จะมีความคิดที่แตกต่างออกไป แต่ทางคุณพิมพ์มาดา พัฒนปรัชญาพงศ์ เจ้าของแบรนด์คางกุ้งทอดกรอบ “โอคุสโน่” ได้มีความคิดที่แตกต่างในการนำคางกุ้งที่ไม่มีใครคิดว่าจะนำมาทำเป็นขนมทานเล่นได้ แถมส่วนของคางกุ้งนั้นยังอุดมไปด้วยแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าขนมคางกุ้งนี้เป็นขนมที่ยังไม่มีคู่แข่งและสามารถสร้างความแปลกใหม่ต่างจากขนมตามท้องตลาดอีกด้วย 

2. คัดสรรวัตถุดิบที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น

      จะเห็นได้ว่าในท้องตลาดยังไม่มีใครนำคางกุ้งมาเป็นขนมทอดกรอบ ซึ่งแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ ที่จะทำให้ผู้ประกอบการหลายๆรายได้มีความคิดที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้กับเมนูอาหารที่จะนำมาผลิต เพื่อสร้างจุดขายให้กับสินค้าเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆให้กับผู้บริโภคที่ชอบลองทานเมนูใหม่ๆ ซึ่งเป็นการสร้างจุดขายที่ดีเลยทีเดียว 

3. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ 

     เชื่อได้ว่าหลายๆธุรกิจต่างพากันออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจและดึงดูดผู้ซื้อ แต่ก็ยังไม่ฉีกกรอบเดิมๆของการออกแบบให้มีความแตกต่างจากบรรจุภัณฑ์เจ้าอื่นๆได้ แต่ทว่าการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของขนมทานเล่นคางกุ้ง ทางคุณพิมพ์มาดาได้ฉีกกฎการออกแบบและทำตรงกันข้ามกับห่อบรรจุภัณฑ์อื่นๆ โดยได้ใช้แพ็คเกจจิ้งเป็นพื้นสีขาว และใช้เป็นพื้นด้าน แถมการออกแบบภาพยังใช้การวาดการ์ตูนเส้นให้มีความแตกต่างขึ้นไปอีก ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเด่นที่เมื่อผู้ซื้อเห็นจะสามารถจดจำแพ็คเกจจิ้งของแบรนด์เราได้

       สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากติดตามเรื่องราวที่เข้มข้นของ นักธุรกิจสาว เจ้าของแบรนด์คางกุ้งทอดกรอบ “โอคุสโน่”  สามารถติดตามได้ในรายการ Smart Focus เพิ่มเติมได้ที่ >> http://smartsme.tv/vod_detail.php?gid=19&id=4399