องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย เริ่มดำเนินโครงการนำร่องบริการรับชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด (Cashless) บนรถโดยสารปรับอากาศ สาย 510 ทุกคัน เริ่มวันนี้เป็นวันแรก

โดย ขสมก.ได้มีการประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ใช้บริการรถโดยสารปรับอากาศ สาย 510 รับทราบถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีการชำระค่าโดยสาร จากรูปแบบเดิมที่ใช้เงินสด เป็นการชำระค่าโดยสารรูปแบบใหม่ ผ่านเครื่อง EDC (Electronic Data Capture) ได้แก่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะบัตรที่ได้รับสิทธิสวัสดิการ), บัตรเดบิต บัตรเครดิต แบบ Contactless ของธนาคารต่างๆ, แอปพลิเคชั่นของธนาคารต่างๆ ที่รองรับการชำระเงินด้วย QR Code และบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. ซึ่งมีจำหน่ายบนรถโดยสารปรับอากาศ สาย 510 ทุกคัน และจุดจำหน่ายบัตรที่ป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง 4 แห่ง ได้แก่ ป้ายหยุดรถโดยสารเมเจอร์รังสิต,ดอนเมือง, BTS จตุจักร และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งเกาะพหลโยธิน)

ส่วนผู้ใช้บริการทั่วไปสามารถชำระค่าโดยสาร ผ่านเครื่อง EDC (Electronic Data Capture) บนรถโดยสารด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

1. ชำระค่าโดยสารด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รุ่นแรก (เวอร์ชั่น 2.0), บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) (เวอร์ชั่น 2.5) และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเวอร์ชั่น 4.0

2. ชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเดบิต และบัตรเครดิต แบบ contactless ของธนาคารต่างๆ

3. ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ QR Code ของทุกธนาคาร

4. ชำระค่าโดยสารด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. โดยผู้ใช้บริการสามารถเติมเงินในบัตรได้ 3 วิธี คือ 1) เติมเงินผ่าน Mobile Banking ของทุกธนาคาร 2) เติมเงินผ่านตู้ ATM ของทุกธนาคาร 3) เติมเงินผ่านเคาน์เตอร์ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา

ทั้งนี้ ขสมก.จะมีส่วนลดพิเศษ (Promotion) ให้กับผู้ใช้บริการที่ซื้อบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. ดังนี้

- ผู้ใช้บริการที่ซื้อบัตร 10,000 ใบแรก ระหว่างวันที่ 3 - 30 เมษายน 2562 สามารถซื้อบัตรได้ ในราคา 40 บาท โดยมีมูลค่าในบัตรที่สามารถใช้บริการรถปรับอากาศสาย 510 จำนวน 50 บาท

- ผู้ใช้บริการที่นำบัตรมาเติมเงิน ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป จะได้รับมูลค่าภายในบัตรเพิ่มอีก 50 บาท (จำกัดจำนวน 2,000 ใบ)
โดยตั้งแต่วันที่ 3 - 9 เมษายน 2562 มีผู้ใช้บริการซื้อบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. แล้วจำนวน 2,200 ใบ