ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยข้อมูลหุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกไทยพบเข้ามาติดอันดับ Top10 ในอาเซียนถึง 6 กลุ่มด้วยกัน สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มธุรกิจค้าปลีกไม่ได้เติบโตแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในต่างแดนด้วย

ข้อมูลดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยคุณปฐมาภรณ์ นิธิชัย ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจัดทำวิจัยเรื่อง “หุ้นค้าปลีกไทยอยู่อันดับไหนในอาเซียน? โดยระบุว่า เมื่อเมืองเติบโตขึ้น จำนวนประชากรที่อาศัย หรือทำงานในเขตเมืองย่อมเพิ่มขึ้น ตลอดจนจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง เหล่านี้เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก

อย่างไรก็ตาม ชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้นส่งผลธุรกิจค้าปลีกต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ ไม่เพียงแต่การขายสินค้าอุปโภคบริโภคแบบเดิม แต่ต้องตอบโจทย์วิถีชีวิตแบบใหม่ของบริโภคมากขึ้น เช่น บริการอาหารพร้อมรับประทาน บริการออกแบบและซ่อมแซม บริการด้านการชำระเงิน เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์ในด้านการจัดการรูปแบบสาขา และสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยี Big data analytic เพื่อพัฒนาสินค้า และบริการที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละบุคคล รวมถึงการพัฒนา e-Commerce และบริการขนส่งสินค้า ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนไทยในกลุ่มค้าปลีกเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปีในช่วง 2557-2561 และมีการจ้างงาน 1.7 แสนคนในปี 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้น 12.6% ต่อปีในช่วง 2557-2561

อีกทั้ง ธุรกิจค้าปลีกไทยไม่ได้แค่เติบโตเพียงแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนที่บริษัทค้าปลีกไทยมีการเปิดสาขาใหม่ และร่วมทุนกับบริษัทท้องถิ่น เช่น บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ที่เปิดสาขา BigC ในเวียดนาม และลาว, บมจ. โรบินสัน เปิดสาขาในเวียดนาม, บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ เปิดสาขาในกัมพูชา และร่วมทุนกับบริษัทท้องถิ่นขยายสาขาในลาว และเมียนมา, บมจ.สยามแม็คโคร เปิดสาขาแม็คโครในกัมพูชา และ บมจ.โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ เปิดสาขาในมาเลเซีย

จากศักยภาพทั้งหมด จึงทำให้หุ้นในกลุ่มบริษัทค้าปลีกไทยเข้ามาติด Top10 หุ้นค้าปลีกอาเซียน ถึง 6 อันดับด้วยกันดังต่อไปนี้

ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย