“สมคิด” มอบนโยบายผู้บริหารส่วนราชการให้บูรณาการการทำงานร่วมกัน นำเอา EEC เป็นต้นแบบพัฒนาเมืองหนุนรายย่อยมีกำลังซื้อ หวังฟื้นเศรษฐกิจปลายปี ด้าน “จุรินทร์” ลั่น ประกันราคาให้กับชาวสวนปาล์ม 4 บาทต่อกิโลกรัม

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายกับผู้บริหารระดับสูงส่วนราชการ ระบุว่าเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว จึงเรียกร้องให้นักลงทุนไทยและต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อการขยายลงทุน เพราะรัฐบาลพร้อมเดินหน้าผลักดันการลงทุนตามนโยบายรัฐ และยังเตรียมเสนอ ครม.เศรษฐกิจพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 21 สิงหาคมนี้

เพื่อช่วยเหลือครอบคลุมทุกภาคทั้งด้านการเกษตร ท่องเที่ยว SME และส่วนต่างๆ หวังให้รายย่อยมีกำลังซื้อในการฟื้นเศรษฐกิจปลายปี สำหรับแนวทางขับเคลื่อนระยะยาว มุ่งเน้นการพัฒนาเขต EEC หลังจากเฟสแรก ได้แจงนโยบายกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ย้ำชัดว่ารัฐบาลเดินหน้าต่อ เพื่อให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานทั้ง ท่าเรือแหลมฉบัง มาบตาพุด สนามบินอู่ตะเภา รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน เพื่อรองรับเอกชนเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย

หลังจากนี้เฟส 2 จึงต้องเร่งเดินหน้าพัฒนาบุคคลากรรองรับให้ทันกับความต้องการของเอกชนที่ต้องการลงทุนในกลุ่มเป้าหมาย

โดยกระทรวงศึกษาธิการ แรงงาน มหาวิทยาลัยต้องร่วมมือกัน เมื่อเขตอีอีซีพัฒนาได้สมบูรณ์แล้ว รัฐบาลเตรียมใช้เป็นต้นแบบ นำไปพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจในภาคอื่นเช่นเดียวกับเขตอีอีซี จากนั้นการพัฒนาเขตอีอีซี เฟส 3 เริ่มยกระดับในการพัฒนา เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางลงทุนของอาเซียน กลุ่ม CLMVT ในช่วงโอกาสการเป็นประธานอาเซียน เพื่อดึงต่างชาติเข้ามาลงทุน การส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรม เศรษฐกิจดิจิทัล รองรับระบบ 5G เพื่อใช้พัฒนาในทุกภาคส่วน ทั้งหุ่นยนต์ การค้าออนไลน์ การนำกองทุนเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันนับหมื่นล้านบาทมาช่วยส่งเสริม SME

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการ ใช้ดูแลผู้มีรายได้น้อย คนชรา เยาวชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทุกหน่วยงาน กระทรวงคลัง ดูแลโครงสร้างภาษี กองทุนหมู่บ้านดูแลรายย่อย กระทรวงเกษตร พาณิชย์ ช่วยกันพัฒนาด้านเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศไว้ในสภา

“เพื่อรองรับความผันผวนตลาดเงิน ตลาดทุนขอตลาดโลก สั่งให้ตั้งคณะกรรมการร่วม คลัง ธปท. กลต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือ ติดตามสถานการณ์การเงินอย่างใกล้ชิด ขณะนี้หลายหน่วยงานเห็นชอบร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน จึงไม่อยากให้อ้างความเป็นอิสระในช่วงเศรษฐกิจมีปัญหา เพราะทำให้บริหารนโยบายเศรษฐกิจลำบากในยุคนี้” นายสมคิด กล่าว

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ชี้แจงว่า นโยบายประกันราคาข้าว ยาง มันสำปะหลัง ทยอยกำหนดหลักเกณฑ์ออกมา นำร่องปาล์มน้ำมัน ขณะนี้ได้เชิญหน่วยงาน ตัวแทนเกษตร ผู้ประกอบการ ร่วมกับเคลื่อนไปด้วยกัน เริ่มประกันราคาให้กับชาวสวนปาล์ม 4 บาทต่อกิโลกรัม

สำหรับปาล์มน้ำมัน 18 % ชดเชยให้ จำนวน 25 ไร่ต่อครัวเรือน เพราะเป็นรายย่อย เปิดให้ชาวสวนปาล์ม นำปาล์มสดไปขายลานเท ต้องรับซื้อในราคาตลาดที่เป็นธรรม จากนั้นรัฐบาลจะช่วยเพิ่มรายได้ก้อนที่ 2 ด้วยการชดเชยส่วนต่าง จากประกันราคา 4 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อลบด้วยราคาตลาด ราคาตลาด 2.5 บาท ต้องชดเชยส่วนต่าง 2 บาท จ่ายเงินผ่าน ธ.ก.ส. ให้กับผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร รัฐบาลกำหนดจ่ายเงินชดเชยให้กับชาวสวน 3 เดือนจ่ายเงินหนึ่งครั้่ง รวมตลอดปีจ่ายชดเชย 4 ครั้งต่อปี

นอกจากนี้ยังได้หารือกับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีพลังงาน ร่วมกันผลักดันการใช้น้ำมันบี 10 กระจายทั่วประเทศ เพื่อใช้นำมันปาล์มเพิ่มมากขึ้น ผลผลิตปาล์มรวมทั้งหมดจะสมดุลกันทั้งการผลิตและการใช้ประโยชน์จากปาล์ม ภาครัฐลดภาระในการจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร จากนั้นจะนำผลิตผลิตปาล์มส่วนเกินไปใช้ผลิตไฟฟ้า 1.3 แสนตัน เพื่อดึงราคาปาล์มให้ปรับสูงขึ้น รวมทั้งการดูแลนำเข้าน้ำมันปาล์มผ่านประเทศไทย เพราะได้นำปาล์มจากภาคใต้จากมาเลเซีย ส่งต่อไปยัง เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา หรือส่งผ่านไปประเทศที่ 3