ตามรายงานของ Deloitte ซึ่งได้รับมอบหมายจาก Uber Eats ให้ทำการศึกษาแพลตฟอร์มการส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ว่าสามารถช่วยเหลือร้านอาหารในลอนดอน, ปารีส, มาดริด และวอร์ซอว์ ในเรื่องการทำรายได้ให้กับธุรกิจอย่างไรบ้าง

จากการศึกษา พบว่าการมีบริการจัดส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่จากบริษัทให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น Just Eat (JE.L) และ Takeaway.com (TKWY.AS) กำลังไปได้ดีในภาคพื้นยุโรป เช่นเดียวกับ Uber Eats, Deliveroo และ Glovo ที่สามารถขยายตลาดการให้บริการทั้งร้านอาหารสาขาเดียว และร้านอาหารที่มีหลายสาขา

โดยร้านอาหารที่ยอดขายสูงขึ้น หลังจากเปิดบริการร่วมกับ Uber Eats จะอยู่ในลอนดอนคิดเป็น 69%, ปารีส คิดเป็น 74%, วอร์ซอว์ คิดเป็น 67% และมาดริด คิดเป็น 59%

ด้าน Stephane Ficaja หัวหน้า Uber Eats ในยุโรป กล่าวว่า การสำรวจในครั้งนี้ได้มอบหมายให้บริษัทประเมินผลกระทบของร้านอาหาร 60,000 ราย ใน 250 เมืองของภูมิภาคยุโรป จากการได้เข้าร่วมกับแพลตฟอร์มบริการจัดส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่อย่างน้อยเป็นระยะเวลา 3 ปี

“เราหวังว่าจะเห็นการเติบโตของร้านอาหารที่ไม่ใช่แค่เพียงแค่รายได้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการจัดส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ แต่ยังรวมถึงผลกำไร”

Ficaja กล่าวต่อว่า การเติบโตมีตั้งแต่ร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงเชนขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถแข่งขันกันได้อย่างเท่าเทียมบนแพลตฟอร์ม ยกตัวอย่างในลอนดอนที่อัตราร้านอาหารแบบเชนสามารถขายอาหารได้ 606,000 ต่อสัปดาห์ และร้านอาหารขนาดเล็กสามารถขายอาหารได้ 305,000 จานต่อสัปดาห์ จนทำให้ยอดขายต่อปีทั้งตลาดมีมูลค่า 323 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจากเดิม 189 ล้านปอนด์

ที่มา: reuters

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• เด็กจบใหม่ไต้หวันเมินงานประจำ หันมาขับรถส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่เพราะทำรายได้ดีกว่า