คุณเองอาจจะเป็นหนึ่งในคนที่ตั้งเป้าหมายในปีใหม่ที่ผ่านมา ว่าอยากจะทำบางสิ่งบางอย่างให้ประสบความสำเร็จ แต่มาตอนนี้ความคิดเหล่านั้นอาจยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ว่าจะด้วยจากสาเหตุอะไรก็ตาม ทั้งกับการมองเห็นเป้าหมายไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าจะเดินไปยังไง หรือเจออุปสรรคที่ทำให้มีอันต้องล้มเลิกไป

ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะคอยฉุดรั้งคุณไว้ไม่ให้เข้าใกล้ความสำเร็จสักที 6 เทคนิคเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณบรรลุจุดประสงค์ของตัวเองได้ ตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี

1. สร้างพลังบวกให้กับตัวเอง

การจะสำเร็จเป้าหมายที่วางไว้ได้ ไม่ใช่เรื่องของแรงกายในการขยับตัวลงมือทำเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องของแรงใจด้วยกว่า 50% เลยทีเดียว เพราะถ้าสมองของคุณมีใจ คิดถึงสิ่งนั้นตลอด และสั่งการให้พร้อมกับการเริ่มต้นทำสิ่งที่มีประโยชน์เพื่อเป้าหมายนั้น ร่างกายคุณจะกระตือรือร้นที่จะทำมันจนสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างทีละนิดได้ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้สมองสั่งการ บางครั้งก็อาจจะต้องย้อนกลับมาที่ร่างกายของคุณด้วย

โดยให้คุณเริ่มต้นลงมือทั้งที่ยังไม่พร้อม ไม่ต้องรอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง แต่ทำไปเลยทันที ให้เห็นผลลัพธ์เดี๋ยวนั้น ซึ่งจะตัดปัญหาผัดวันประกันพรุ่งได้ และเมื่อคุณเริ่มลงมือ ทุกอย่างก็จะง่าย เพราะคุณจะมองเห็นทางที่ต้องเดินไปจากก้าวแรกที่คุณก้าวออกมา

2. บรีฟตัวเองให้เข้าใจถึงจุดหมายปลายทาง

เทคนิคบรีฟตัวเองนี้จะช่วยผลักดันให้คุณเดินได้ไวยิ่งขึ้น หลังจากก้าวออกมาแล้วหากคุณมองไม่เห็นทางที่จะเดินไป โอกาสเข้าถึงเป้าหมายก็จะลดน้อยลง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นจะต้องมีการบรีฟตัวเอง และวางแผนที่ดีด้วยการทำ To-Do List เพื่อจัดลำดับสิ่งที่ต้องทำต่อไป วางแผนความสำเร็จทีละขั้น ซึ่งจะทำให้คุณวัดค่าได้ว่าเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว แผนการแต่ละขั้นจะช่วยให้คุณมีแรงใจในการก้าวต่อไป เพราะรู้ว่าตัวเองพัฒนาและเดินมาไกลจากวันแรกที่เริ่มต้นนั่นเอง แต่สำคัญที่สุดคือคุณต้องให้ความเคารพในแผนการที่วางไว้ ไม่พอกหางหมู หรือปล่อยให้มันผ่านไปอย่างเสียเวลาเปล่า

3. ติดตามผลให้ชัดเจนด้วยหลัก SMART

หลักการ SMART นั้นเป็นเหมือนพื้นฐานสำคัญในการตั้งเป้าหมายที่จะช่วยให้คุณไปถึงความสำเร็จที่ต้องการได้ ซึ่งจะแยกออกเป็น 5 ส่วนด้วยกันคือ

Specific : เป้าหมายที่ชัดเจน เฉพาะเจาะจง เข้าใจง่าย
Measurable : เป้าหมายต้องวัดผลได้ ซึ่งจะช่วยให้รู้ว่าดำเนินการถึงไหนแล้ว มีประสิทธิภาพหรือไม่
Attainable : เป็นเป้าหมายที่เกิดได้จริง ไม่เกินความคาดหมายมากไป
Relevant : เป้าหมายต้องมอบความสำเร็จที่เกี่ยวข้องในหลายๆ ส่วนของชีวิต
Time-Bound : ขีดเส้นตายให้เป้าหมายนั้น ว่าจะบรรลุผลเมื่อไหร่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทำงานอย่างต่อเนื่อง

4. บอกเป้าหมายตัวเองให้ทุกคนรู้

วิธีนี้ไม่ใช่การพูดโอ้อวดเพื่อข่มคนอื่น แต่มันจะช่วยเพิ่มแรงกระตุ้น แรงใจ และไฟในการทำตามเป้าหมายให้กับคุณทางหลักจิตวิทยา เนื่องจากการบอกเป้าหมายออกไป จะทำให้คุณโฟกัสกับมันมากขึ้น เพราะมีคนมากมายเฝ้ารอความสำเร็จตรงนี้จากคุณอยู่ จะทำให้คุณไม่ออกนอกลู่นอกทาง และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่ายๆ การทำอะไรด้วยตัวคนเดียวมีแนวโน้มจะล้มเหลวมากกว่าการบอกเป้าหมายออกไปให้คนหมู่มากรู้ เพราะคุณจะล้มเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ จึงไม่มีเหตุให้ต้องทนต่อไปเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างทาง

5. หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทำตามเป้าหมายเดียวกัน

หากเป้าหมายของคุณเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ หรือตรงกับความต้องการของใคร ให้คุณชวนเขาเหล่านั้นมาร่วมเดินตามความฝันด้วย เพราะการทำอะไรคนเดียวจะทำให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยว และไม่มีแรงกระตุ้นในการทำ การมีเพื่อนทำด้วยกันนอกจากจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้แก่กันและกันแล้ว ยังเป็นเหมือนที่พึ่งพิงในยามที่คุณเกิดปัญหาด้วย ข่าวสารที่คุณพลาดไป เพื่อนร่วมอุดมการณ์ก็จะคอยแชร์ ทำให้คุณเข้าใกล้ความสำเร็จไปได้เร็วขึ้น

6. ให้เวลาตัวเองได้พักผ่อน

บางคนหมกมุ่นกับการทำตามความฝัน หรือความสำเร็จมากเกินไป เพราะอยากให้ถึงจุดหมายเร็วๆ แต่พฤติกรรมนั้นเป็นการขยายเวลาทำตามความฝันของคุณโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากการพักผ่อนเองก็เป็นสิ่งสำคัญ หากคุณทำตามเป้าหมายโดยไม่พักผ่อนอย่างพอดี หรือเพียงพอ ก็จะทำให้ร่างกายรับภาระหนัก ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องทรุดเข้าโรงพยาบาล หรือมีเหตุให้ต้องเจ็บป่วยเกิดขึ้นได้ ซึ่งนี่จะกินเวลานาน และทำให้คุณต้องห่างหายจากการเดินตามความฝันอย่างที่ตั้งใจไว้ การพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้พักฟื้นแล้ว ยังทำให้สมองแล่น และพร้อมคิดหาหนทางใหม่ๆ เพื่อบรรลุในเป้าหมายอย่างรวดเร็วได้ด้วย