วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2567

5 ประเภทสินค้าส่งออกไทยที่ "รอดตาย" ท่ามกลางสมรภูมิไวรัสพ่นพิษ

by Smart SME, 2 เมษายน 2563

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะ 5 โอกาสทองของผู้ประกอบการส่งออกไทย ในสถานการณ์การระบาดของวิกฤตโควิด – 19 เชื่อมั่นไทยยังมีสินค้า 5 ประเภทที่มีโอกาสในการส่งออกหรือกระจายสินค้าไปสู่ตลาดและผู้บริโภคต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น

สำหรับสินค้า 5 ประเภทได้แก่ สินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูป สินค้าด้านเวชภัณฑ์และการแพทย์ สินค้าและบริการด้านความบันเทิง สินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือน และกลุ่มสินค้าในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมแนวทางการรับมือด้วยแนวคิด “ตั้งรับ ปรับตัว หาโอกาส” ดึงออนไลน์เข้ามามีส่วนช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้วิกฤตดังกล่าวให้เป็นโอกาสในการพัฒนาความรู้ความสามารถ ทักษะ เพื่อนำมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ และสามารถเพิ่มโอกาสการส่งออกได้เพิ่มขึ้นจากเดิม พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์ได้แก่ การจับคู่ธุรกิจ การจัดงานแสดงสินค้า และการพัฒนาแพลตฟอร์ม “NEA E-Learning Universe” โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด – 19 กรมฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ทำการศึกษาปัจจัยและแนวโน้มเรื่องการส่งออกของสินค้าไทย โดยพบว่า สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีความรุนแรงและส่งผลกระทบกับกิจกรรมการส่งออกในประเทศไทยเท่านั้น แต่ประเทศอื่น ๆ ที่พึ่งพาการส่งออกก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามก็ยังพบว่าในภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น ประเทศไทยมีสินค้า 5 ประเภทที่มีโอกาสในการส่งออกหรือกระจายสินค้าไปสู่ตลาดและผู้บริโภคต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ประกอบด้วย

· สินค้าประเภทอาหาร โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคในทุกประเทศ โดยในช่วงนี้สินค้าที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ อาหารแห้ง ข้าว อาหารกระป๋อง ซึ่งประเทศไทยมีกำลังในการผลิตเพื่อบริโภคและการจำหน่ายที่เพียงพอกับความต้องการทั้งภายในและภายนอก ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าในระยะแรกของการระบาดเชื้อ โควิด-19 สินค้าดังกล่าวถือว่ามีปัญหาเล็กน้อย แต่ในปัจจุบันถือว่าคลี่คลายได้ดี และคาดว่าจะค่อย ๆ ขยายตัวได้ในระดับที่น่าพอใจ

· สินค้าด้านเวชภัณฑ์และการแพทย์ ซึ่งเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการเกือบเทียบเท่ากับกลุ่มอาหาร โดยอุปทานความต้องการมีมากทั้งในและต่างประเทศ อันเนื่องมาจากการดูแลสุขภาพและการป้องกันตัวของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าความต้องการจะยังคงมีมากอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมนำไปปรับแผนการผลิตที่มีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และเพียงพอต่อไป

· สินค้าและบริการด้านความบันเทิง และอุตสาหกรรมด้านเอนเตอร์เทนเมนท์ เนื่องจากการอยู่บ้านของประชาชนที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขานรับนโยบาย Social Distancing รวมทั้งการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home โดยธุรกิจบริการที่มีโอกาสเติบโตสูงได้แก่ ดิจิทัลคอนเทนท์ เกมส์ และภาพยนตร์ รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยในเรื่องการออกกำลังกายในบ้าน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาผู้บริโภคได้หันมาใช้จ่ายในสินค้าและบริการเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้องการผ่อนคลายความเครียดจากการอยู่บ้านเป็นเวลานานๆ

· สินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน ซึ่งปัจจุบันพบว่า เริ่มมีสถานที่ในการจัดจำหน่ายที่น้อยลง จึงทำให้โอกาสดังกล่าวขยายไปสู่ช่องทางการซื้อขายออนไลน์และผู้บริโภคก็หันเข้าสู่ช่องทางดังกล่าวเช่นเดียวกัน

· กลุ่มสินค้าในอุตสาหกรรมขั้นกลาง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ เส้นใยผลิตสิ่งทอ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ

นายสมเด็จ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมได้เตรียมมาตรการรองรับและสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการส่งออก ไว้หลายด้านประกอบด้วย

1.ลดการพึ่งพาตลาดหลักผลักดันการส่งออกสินค้าไปยังตลาดใหม่เพิ่มขึ้น

2.เร่งแก้ไขปัญหาในการส่งออกจากปัจจัยต่างๆ ของประเทศเป้าหมายส่งออกสินค้าและบริการ

และ 3. เพิ่มศักยภาพการทำการค้าระหว่างประเทศ ด้วยการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการทำการค้าในเศรษฐกิจยุคใหม่ รวมถึงเร่งหาแนวทางรับมือต่อไป เพื่อให้ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของผู้ประกอบการไทย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็วและไม่กระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นเวลานานหลังจากวิกฤตดังกล่าวได้ผ่านไป

 

 


Mostview

4 สิ่งของคนเลี้ยงลูกประสบความสำเร็จไม่เคยสอนตอนเมื่อลูกยังเล็ก

ครอบครัวถือเป็นสถาบันหลักสำคัญในการสั่งสอนลูกว่าจะเป็นคนอย่างไร โดยช่วงเวลาที่ผ่านมาเราได้ยินว่าควรทำอย่างไรกับลูกของเรา และเรื่องไหนที่ไม่ควรทำกับลูกของเรา

แม็คโคร-โลตัส ไตรมาสแรกปี 2567 ทำรายได้รวม 127,020 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เผยผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/67 พบว่ามียอดรายได้รวม 127,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน

คนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บสำหรับการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท

ภายในงาน KKP Financial Talk: Money Master #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้ ซึ่งมีการพูดถึงปัญหาและคำแนะนำให้กับ Sandwich Generation ผู้แบกภาระการดูแลทั้งคนรุ่นก่อน และรุ่นหลังไว้ ในขณะที่เศรษฐกิจไม่เกื้อหนุนให้พวกเขาได้สบายขึ้น

กล้าพอไหม! Airbnb เปิดให้เข้าพักบ้านลอยฟ้า มีลูกโป่งกว่า 8,000 ใบ โยงติดอยู่บนหลังคา

หากอยากจะทำอะไรตื่นเต้นต้องมาทางนี้ เมื่อ Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักได้เปิดตัวโปรเจคต์ “Icon” เพื่อสร้างประสบการณ์พักผ่อนให้กับลูกค้า เปลี่ยนสิ่งที่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ให้กลายเป็นความจริง

SmartSME Line