หวังสิงหวน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเหลยเสินซาน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใช้รักษาโรคโควิด-19 ในนครอู่ฮั่นทางตอนกลางของจีน ตอบคำถามเกี่ยวกับตัวเลขผู้ติดเชื่อในนิวยอร์กพุ่งสูงเป็นอย่างมาก โดยแนะนำให้นิวยอร์กส่งเสริมการสวมหน้ากากอนามัย และหยุดการกักตัวผู้ป่วยไว้ที่บ้าน

โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลเหลยเสินซาน ยกตัวอย่างถึงโรงพยาบาลจงหนานแห่งมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น ที่ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งประธาน ว่าบุคลากรทางการแพทย์ในแผนกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 บางราย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในระยะแรกของการแพร่ระบาด และบุคลากรเหล่านี้ทั้งหมดไม่มีใครสวมใส่หน้ากากอนามัยแม้แต่คนเดียว

“บุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อข้างต้นไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัยขณะติดต่อกับผู้ป่วยติดเชื้อ ดังนั้นเราจึงมั่นใจในประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย” หวังกล่าวกับนักข่าวกลุ่มหนึ่งเมื่อช่วงหยุดสุดสัปดาห์

อีกทั้ง หวังสิงหวน แนะนำว่าอย่าให้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงกักตัวเองที่บ้าน เนื่องจากพวกเขามีโอกาสแพร่เชื้อต่อไปยังสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ เพิ่มอีก

“ในช่วงแรกของการแพร่ระบาดนั้น อู่ฮั่นพบหลายกรณีที่ผู้ป่วยเพียงรายเดียวสามารถแพร่เชื้อต่อไปยังสมาชิกในครอบครัว 3 คน 5 คน หรือ 6 คน นี่เป็นบทเรียนที่น่าเศร้า” เขากล่าว

หลังตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว อู่ฮั่นจึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนสถานที่สาธารณะ รวมถึงโรงยิมและศูนย์จัดแสดงสินค้า ให้กลายเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว 16 แห่ง เพื่อกักตัวผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง โดยหวังเผยว่านับเป็นการตัดสินใจที่ประสบความสำเร็จ

“หากเราไม่ลดโอกาสการแพร่เชื้อ อัตราการติดเชื้อย่อมจะสูงขึ้นเป็นธรรมดา” หวังกล่าว “เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด อย่างน้อย 1 ใน 3 ของปัจจัยดังต่อไปนี้ควรได้รับการควบคุมอย่างสมบูรณ์ ได้แก่ แหล่งที่มาของการติดเชื้อ ช่องทางการแพร่เชื้อ และประชากรที่ติดเชื้อได้ง่าย”

ทั้งนี้ อู่ฮั่นสร้างโรงพยาบาลหั่วเสินซานและโรงพยาบาลเหลยเสินซาน ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ระหว่างปลายเดือนมกราคมจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลังโรงพยาบาลท้องถิ่นไม่สามารถรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่ล้นมือได้

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว