เทคโนโลยีที่พัฒนาทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเกิดการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แม้สถานการณ์จะดูไม่ค่อยดีนัก แต่อีกด้านหนึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นช่องทางที่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองโดยการใช้พฤติกรรมของผู้บริโภคให้เป็นประโยชน์

ตามข้อมูลของ Grab ที่เปิดเผยสถิติบริการในช่วงที่ผ่านมาระบุว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีจำนวนผู้มาสมัครขับ Grab เพิ่มขึ้น เพื่อใช้เป็นช่องทางหารายได้ของผู้ที่ถูกเลิกจ้างงาน หรือได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับบริการส่วนใหญ่ที่เลือกทำจะเป็นจะเป็นการส่งอาหาร (GrabFood) และส่งพัสดุ (GrabExpress) คิดเป็น 77% รองลงมาเป็นบริการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น GrabCar, GrabTaxi, GrabBike และ GrabDriveYourCar คิดเป็น 23%

หากแบ่งตามวัย พบว่ากลุ่มคน เจน Y เป็นพาร์ทเนอร์กับ Grab มากที่สุด คิดเป็น 48.5% รองลงมาคือ เจน X คิดเป็น 26%, เจน Z คิดเป็น 24% และเบบี้บูมเมอร์ คิดเป็น 1.5%

นอกจากนี้ จำนวนปีที่ของผู้ที่สมัครเป็นพาร์ทเนอร์กับ Grab พบว่าส่วนใหญ่น้อยกว่า 6 เดือน คิดเป็น 44% รองลงมา 1-3 ปี คิดเป็น 26.5%, 6 เดือน-1 ปี คิดเป็น 19%

ทั้งนี้ 5 จังหวัดที่มีผู้มาสมัครเป็นพาร์ทเนอร์มากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, ขอนแก่น และนครศรีธรรมราช