ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ผ่านกฎหมาย ห้ามทุกโรงแรมแจกแชมพู-โลชั่น ขนาดเล็กให้ผู้เข้าพัก หวังแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ขยะพลาสติก

สำหรับผู้ที่ใช้บริการโรงแรม รีสอร์ต หรือห้องพักในรูปแบบต่างๆ อยู่เป็นประจำ คงจะเคยชินกับการที่ได้เห็นห้องน้ำของที่พักเตรียมแชมพู โลชั่น ขวด-หลอดเล็กๆ ไว้ให้ใช้ ซึ่งเราจะรู้สึกว่ามีความสะดวก เพราะไม่ต้องไปใช้ร่วมกับผู้อื่น หรือหากไม่ใช้ก็เก็บเอากลับไปด้วยได้

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นความสะดวก แต่ขวด-หลอดแชมพูหรือโลชั่นเล็กๆ เหล่านี้ เมื่อเลิกใช้ก็จะกลายเป็นขยะพลาสติกจำนวนมาก ที่ถือว่าเป็นศัตรูตัวสำคัญของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมามีการรณรงค์ให้บรรดาเหล่าโรงแรมที่พักต่างหาวิธีการจัดการกับเรื่องนี้มาโดยตลอด

จากประเด็นดังกล่าว เว็บไซต์กรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ได้นำเสนอเรื่องราวจากต่างประเทศที่น่าสนใจ ของเมืองแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่ออกกฎหมายบังคับให้โรงแรมทั้งหมดในรัฐฯ งดเตรียมแชมพู ครีมนวดและโลชั่นที่บรรจุในขวดพลาสติกที่มีขนาดเล็กให้กับผู้ที่มาเข้าพัก

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เกวิน นิวซัม (Gavin Newsom) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ลงนามคำสั่งห้ามโรงแรมทั้งหมดในรัฐฯ จัดเตรียมแชมพู ครีมนวดและโลชั่นที่บรรจุในขวดพลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 12 ออนซ์ ในกับแขกที่เข้าพัก โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนขวดพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single-Use Plastic) ซึ่งในแต่ละปีสร้างขยะที่ก่อมลพิษอย่างมหาศาล

สำหรับกฎหมายใหม่นี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2566 (ค.ศ. 2023) สำหรับกลุ่มโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักมากกว่า 50 ห้อง และในปี 2567 สำหรับกลุ่มโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักน้อยกว่า 50 ห้อง อย่างไรก็ดี ข้อบังคับใหม่นี้จะไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มโรงพยาบาล สถานที่ดูแลผู้ป่วย บ้านพักคนชรา เรือนจำและสถานพักพิงสำหรับคนไร้บ้าน

นอกจากนี้ กฎหมายยังระบุโทษกรณีที่โรงแรมฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเอาไว้ด้วย โดยเจ้าของและผู้ดำเนินกิจการจะถูกปรับเงิน จำนวน 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันจนกว่าจะมีการแก้ไข พร้อมหนังสือคำเตือนสำหรับการกระทำผิดครั้งแรก หากยังมีการกระทำผิดเป็นครั้งที่สองและครั้งต่อๆ ไป จำนวนเงินค่าปรับจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ดอลลาร์ต่อวัน

“แอช คาลลา” ผู้ร่วมร่างกฎหมายฉบับนี้ เชื่อว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้งในรัฐแคลิฟอร์เนียได้

การออกกฎหมายเพื่อควบคุมการใช้พลาสติกของธุรกิจโรงแรมฉบับนี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กับความพยายามจัดการปัญหาขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งของเมืองอื่นๆ และบริษัทเอกชนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทยอยออกมาตรการต่างๆ มาแล้วก่อนหน้านี้ เช่น การห้ามใช้ขวดน้ำพลาสติกในสนามบิน การรณรงค์ไม่ใช้หลอดพลาสติกและถุงพลาสติกในร้านสะดวกซื้อ

แคลิฟอร์เนียจัดเป็นรัฐที่มีความตื่นตัวเรื่องปัญหาขยะพลาสติกมากที่สุดและเป็นรัฐแรกในสหรัฐที่สั่งแบนถุงพลาสติกในร้านสะดวกซื้อย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 ซึ่งในปีที่ผ่านมารัฐนิวยอร์กก็ได้ดำเนินรอยตามแบนถุงพลาสติกในร้านสะดวกซื้อไปแล้วเช่นกันและกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาแบนการใช้ขวดพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้งในธุรกิจโรงแรมเช่นเดียวกับแคลิฟอร์เนียอีกด้วย

“การจำกัดการใช้พลาสติกทีละเล็กทีละน้อยจะส่งผลบวกต่อสิ่งแวดล้อมในโลกของเรา การห้ามโรงแรมใช้พลาสติกครั้งเดียวทิ้งกับลูกค้าก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการปกป้องสิ่งแวดล้อม ลดขยะพลาสติกและขยะในท่อระบายน้ำที่กีดขวางทางเดินของน้ำ” ทอดด์ คามินสกี วุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์ก กล่าว

นอกจากความพยายามของภาครัฐแล้ว เจ้าของธุรกิจโรงแรมที่มีเครือข่ายทั่วโลกอย่างกลุ่มแมริออตก็ได้ออกมาประกาศว่าโรงแรมในเครือของตัวเองจะยกเลิกการใช้ขวดพลาสติกขนาดจิ๋วเพื่อบรรจุแชมพูและครีมนวดให้กับผู้เข้าพักในเดือนเมษายนนี้ โดยจะหันมาใช้ภาชนะประเภทอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าเพื่อบรรจุของเหลวเหล่านี้แทน

ทั้งนี้ จะเริ่มต้นจากโรงแรมในเครือแถบภูมิภาคอเมริกาเหนือ จำนวน 1,500 โรงแรมก่อน และคาดว่ามาตรการนี้จะสามารถลดปริมาณขยะที่เกิดจากขวดพลาสติกขนาดเล็กได้ถึง 10.4 ล้านขวด หรือ 50,000 กิโลกรัมต่อปี