สำนักงานสถิติสิงคโปร์ (DOS) ประกาศในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกของสิงคโปร์ ลดลง 52.1% ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาเมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลงต่อเนื่องจากเดือนเม.ย.ซึ่งปรับตัวลง 40.3%

DOS เปิดเผยว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าวเมื่อปี 2529 โดยมีสาเหตุจากมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน หรือ "Circuit Breaker" ที่ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัดส่วนยอดค้าปลีกออนไลน์เมื่อเทียบกับยอดค้าปลีกทั้งหมดนั้นเพิ่มขึ้นจาก 17.8% ในเดือนเม.ย. เป็น 24.5% ในเดือนพ.ค. โดยยอดค้าปลีกทั้งหมดมีมูลค่าประมาณ 1.8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

หากไม่นับรวมยอดขายรถยนต์แล้ว ยอดค้าปลีกของสิงคโปร์ปรับตัวลง 45.2% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี และลดลง 20.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

นอกจากนี้ DOS ยังประกาศด้วยว่า ยอดขายบริการอาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 50.1% ในเดือนพ.ค.เทียบรายปี แต่เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยมีมูลค่ายอดขายราว 430 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ขณะที่สัดส่วนยอดขายบริการอาหารและเครื่องดื่มออนไลน์ปรับตัวขึ้นจาก 39.2% ในเดือนเม.ย. เป็น 44.6% ในเดือนพ.ค.