ใกล้เข้ามาแล้วกลับช่วงเทศกาลสงกรานต์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แน่นอนว่าในช่วงหยุดยาวหลายฝ่ายต่างอยากเห็นภาพการจับจ่ายใช้สอย การเดินทางออกต่างจังหวัด เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากต้องได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

การสำรวจของสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ที่เก็บกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,200 คน อายุ 20-59 ปี เรื่องแนวโน้มการบริโภคของคนไทย ระหว่างวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่าผู้บริโภคกล้าใช้จ่ายมากขึ้น แม้โควิด-19 ยังอยู่ โดยคนไทยเริ่มผ่อนคลายกับการใช้จ่ายมากขึ้น เห็นได้จากความต้องการใช้จ่ายกับการรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือการซื้อเสื้อผ้าใหม่ นอกจากนี้การอยู่บ้านยังทำให้เกิดวิถีใหม่ “สร้างสุขได้ตัวเองที่บ้าน” เห็นได้จากความต้องการซื้อสินค้าเครื่องใช้เพื่อความสะดวกสบายในบ้านมากขึ้น

โดย 5 อันดับ สินค้า/บริการ ที่ผู้บริโภคต้องการซื้อมากที่สุด ได้แก่ 1.อาหาร คิดเป็น 18% 2.ของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน คิดเป็น 13% 3.โทรศัพท์มือถือ, สมาร์ทโฟน คิดเป็น 11% 4.เครื่องใช้ภายในบ้าน คิดเป็น 7% และ 5.เสื้อผ้า คิดเป็น 7%

อีกทั้ง อานิสงส์จากเทศกาลสงกรานต์ และวันหยุดยาว ยังเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการใช้จ่ายเพื่อเตรียมตัวสำหรับพักผ่อน การรวมญาติ ไม่เพียงเท่านั้นเทศกาลลดราคายังมาจูงใจให้เกิดความสุขในอนาคตที่เพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มผู้บริโภคอายุ 30 ปีขึ้นไปมีแนวโน้มต้องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมตัวให้เข้ากับเทศกาล เช่น ซื้อของขวัญให้ครอบครัว และคนพิเศษ หรือซื้อของตามที่วางแผนไว้

ทั้งนี้ แนวโน้มความต้องการใช้จ่ายในเดือนเมษายน 2564 อยู่ที่ 56 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่มีอยู่ 54 คะแนน