นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติรับทราบการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใน จ.ภูเก็ต เริ่มวันที่ 1 ก.ค. และ เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี เริ่ม 15 ก.ค.64 ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) เสนอ

สำหรับการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง โดยเริ่มต้นที่ จ.ภูเก็ต หรือ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ใน วันที่ 1 ก.ค.64 และ จ.สุราษฎร์ธานี ในพื้นที่ เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า ในวันที่ 15 ก.ค.64 เป็นไปตามความตกลงร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่

โดยอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันโควิด-19 ทั้งเรื่องของจำนวนผู้ฉีดวัคซีนและความพร้อมด้านสาธารณสุข โดยจะดำเนินการอย่างเคร่งครัด และมีผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง

ด้านเกณฑ์การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นเป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข คือ

1.มีใบรับรองการฉีดวัคซีนมาครบ 2 โดส อย่างน้อย 14 วัน ใบรับรองแพทย์ ผลการตรวจเชื้อโควิดเป็นลบ โดยวิธี RT-PCR ระยะเวลาไม่เกิน 72 ชม.ก่อนการเดินทาง กรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพ-โควิด ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3.17 ล้านบาท)

2.เดินทางมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำและปานกลาง หรือตาม สธ.กำหนด และตามที่ ททท.เสนอ

3. เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ณ สนามบิน โรงแรมที่พัก หรือจุดตรวจ เข้าที่พักแบบ ALQ (Alternative Local State Quarantine)

4. หากผลการตรวจแล้วไม่พบเชื้อ โดยวันที่ 1 - 3 สามารถออกนอกห้องพักและใช้บริการบริเวณที่พัก วันที่ 4 - 7 นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวในระบบปิดตามเส้นทางที่กำหนด วันที่ 8 - 14 ท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน เกาะเต่า โดยไม่กักตัวแบบมีเงื่อนไข 5. การตรวจหาเชื้อโควิด - 19 อีกจำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 6 – 7 และ 12 – 13

6. ก่อนเดินทางออกจากพื้นที่ของเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ไปจังหวัดอื่น ๆ ให้แสดงหลักฐานยืนยันว่าได้พำนักในที่พัก ALQ ตามระยะเวลาที่กำหนด และมีผลการตรวจเชื้อโควิด – 19 เป็นลบ

ด้านหน่วยงานในพื้นที่จะต้องมีระบบกำกับควบคุมในที่พัก (Covid Manager อาสาสมัครสาธารณสุขประจำโรงแรม) ระบบกำกับควบคุมในการเดินทาง Sealed Route โดยที่พักและบริษัทนำเที่ยว ระบบควบคุมคัดกรองด่านเข้า-ออกทางอากาศและทางเรือทั้ง 3 เกาะ และเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อตรวจสอบ

นอกจากนี้ต้องจัดตั้งคณะทำงานดำเนินการตามแผนคัดกรองและเฝ้าระวัง สถานประกอบการต้องมีใบรับรองแสดงภูมิคุ้มกันหมู่ ผู้ให้บริการที่ต้องสัมผัสตรงกับนักท่องเที่ยวต้องใส่ชุดป้องกันและรับวัคซีนครบ 2 โดส และดำเนินการตามมาตรฐาน SHA Plus และมาตรการ D-M-H-T-T-A

ที่สำคัญ ต้องจัดทำแผนเกณฑ์การยกเลิกการรับนักท่องเที่ยว เมื่อมีการระบาดโดยใช้ศักยภาพในการรองรับของโรงพยาบาลเกาะสมุย (โรงพยาบาลแม่ข่ายใน 3 เกาะ) เป็นเกณฑ์กำหนด ผ่านระบบ “Samui Sealed Route Model” ได้ 20 ราย/ 2 สัปดาห์