วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2567

LiVE Platform แพลตฟอร์มที่สร้างมาเพื่อปูเส้นทางให้ SMEs และ Startup ได้พัฒนาธุรกิจ เพื่อต่อยอดสู่แหล่งเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์

by Smart SME, 13 กันยายน 2564

เมื่อถึงจุดหนึ่ง ที่ธุรกิจของเราเติบโตจนถึงจุดที่จำเป็นต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อต่อยอดในการก้าวกระโดดไปสู่บันไดความสำเร็จที่สูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผู้ประกอบการหลายท่านก็คงเคยผ่านจุดนี้กันมาแล้วหลายท่าน แต่โดยปกติแล้ว ในการทำธุรกิจถ้าเราอยากจะขยับขยายธุรกิจของเราให้เติบโตขึ้น ถ้าไม่ใช้ทุนที่ตัวเองมีอยู่แล้ว ก็ต้องไปหาแหล่งเงินทุนเพิ่ม เช่นการกู้เงินจากธนาคาร หรือการเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นเงิน เพื่อเพิ่มทุนให้ธุรกิจ

แต่ในบางกรณีเงินกู้ที่เราได้มาก็อาจจะไม่เพียงพอต่อธุรกิจในขณะนั้นแล้ว การจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็นับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เราสามารถใช้หาเงินทุน โดยผ่านการระดมทุนจากสาธารณชนที่สนใจในธุรกิจของเรา ซึ่งเชื่อว่า ผู้ประกอบการหลายท่าน ก็คงต้องการที่จะพาธุรกิจของเราให้ไปถึงจุดหมายปลายทางนี้ นั่นคือการพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์

แต่ถ้าหากเราเป็นผู้ประกอบการ SMEs หรือ Startups ที่ยังไม่มีความรู้ในตลาดหลักทรัพย์ หรือคิดว่าธุรกิจของเรายังไม่มีความพร้อม แต่ต้องการที่จะศึกษา พัฒนา และต้องการต่อยอดให้ธุรกิจของเราไปสู่จุดนั้นได้ โอกาสได้มาถึงท่านแล้ว เพราะวันนี้ เราจะพาไปเปิดคลังความรู้ ที่ถูกสร้างมาเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่โดยเฉพาะ กับ LiVE Platform แพลตฟอร์มที่กำเนิดมาเพื่อปั้นธุรกิจของคนตัวเล็ก เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดแหล่งทุนใหญ่ในอนาคต

.

.

.

.

.

LiVE Platform คืออะไร

LiVE Platform คือ ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และ Startups ยุคใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การระดมทุนผ่านกลไกตลาดทุน พร้อมปูพื้นฐานสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งทำงานผ่านระบบเครือข่ายอิเลคทรอนิคส์เพื่อการระดมทุน และการซื้อขายหลักทรัพย์

ทำหน้าที่เสมือนเป็นตลาดกลางระหว่างแหล่งทุน กับผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก รวมไปถึงสตาร์ทอัพ เพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมถึงช่วยลดข้อจำกัดในการระดมทุน เพื่อให้ผู้ประกอบการ นำเงินทุนไปขยายธุรกิจของตนเองได้ ทั้งยังเป็นตัวกลางให้กับนักลงทุนที่มองหาธุรกิจที่มีนวัตกรรมและการเติบโตสูง ช่วยให้เกิดสภาพคล่อง มีทางเลือกในการจัดการเงินลงทุน ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับนักลงทุนที่มีความสนใจ ในธุรกิจขนาดเล็กแต่มีศักยภาพที่น่าลงทุนในอนาคต

LiVE Exchange ใน LiVE Platform แตกต่างจาก SET และ Mai อย่างไร

LiVE Exchange นั้นจะมีความแตกต่างจาก SET และ Mai ตรงที่ LiVE Exchange เป็นตลาดทุนใหม่ สำหรับการระดมทุนและการซื้อขายแลกเปลี่ยน ที่สร้างมาเพื่อ SME และ Startups (SME Board) โดยปรับลดการกำหนดคุณสมบัติในการเข้าจดทะเบียน ให้เหมาะกับขนาดธุรกิจ ไม่มีการกระจายหุ้นวงกว้างในลักษณะที่เป็นบริษัทมหาชน เป็นเพียงการระดมทุนจากนักลงทุนเฉพาะกลุ่มที่มีความรู้ ความเข้าใจความเสี่ยงในการลงทุนของธุรกิจ Startup และ SME การซื้อขายจะเป็นแบบเจรจาต่อรองกันเอง โดยมี LiVE Platform เป็นตัวกลางระหว่างแหล่งทุนและบริษัทที่มีความน่าสนใจ ซึ่งจะไม่มีการจับคู่ซื้อขายแบบอัตโนมัติ เหมือน SET และ Mai นั่นเอง

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยกับ Smart SME ว่าจากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดตลาดรอง mai มา 22 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยปีนี้ ตลท. กำลังจะก้าวสู่ความสำเร็จใหม่อีกครั้ง ด้วยการผลักดันให้เกิดตลาดทุนสำหรับ SME และ Startups (SME Board) ภายใช้ชื่อ LiVE Exchange เป้าหมายเพื่อให้ตลาดทุน เป็นส่วนหนึ่งของรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

.

.

จุดเด่นของ LiVE Exchange อยู่ที่รองรับการลงทุนแบบ Equity Crowdfunding สำหรับการลงทุนรายโครงการ เหมาะกับบริษัทที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังไม่มีประวัติประกอบการ (Track Record) หรือ Startup Series A และ LiVE ETP (Electronic Trading Platform) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นแบบ OTC โดยเหมาะกับบริษัทที่กำลังขยายการเติบโตหรือ Startup Series B เป็นต้นไป ก่อนจะเข้าสู่การ IPO

จุดแข็งสำคัญของ LiVE Platform ระดมทุน คือมีระบบยืนยันความน่าเชื่อถือของทั้งนักลงทุนและ Startup กับ SME ตามเงื่อนไขของ กลต. ทั้งยังสามารถใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อหาผู้ลงทุนหรือบริษัทที่สนใจจะลงทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น การเข้าร่วม LiVE Platform จะช่วยเพิ่ม Connection และความน่าเชื่อถือในฐานะบริษัทที่มี Profile ในตลาด ด้วยมาตรฐานของ LiVE ทั้งยังช่วยบ่มเพาะ Startup และ SME ให้พร้อมก้าวสู่การ IPO ในอนาคต ด้วยหลักสูตรที่เปิดให้ศึกษาได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

LiVE Platform จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการขนาดเล็ก ทั้ง SMEs/Startups ที่มีศักยภาพเพื่อให้พร้อมเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีขั้นตอนในการปูพื้นฐานไล่ไปตามลำดับขั้น 3 ชั้นด้วยกัน ประกอบด้วย Education Platform , Scaling Up Platform , และขั้นสุดท้ายคือ Fundraising & Trading Platform

.

.

.

Education Platform เป็นการเสริมรากฐาน ผ่านหลักสูตรผู้ประกอบการ ซึ่งมาในรูปแบบห้องเรียนออนไลน์ โดยในแพลตฟอร์มจะประกอบไปด้วยแหล่งคลังความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ ซึ่งจัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละแขนง ที่จะมาจุดประกายความคิดเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจของคุณ

ในขั้นตอนนี้ จะเป็นการเรียนแบบ e-Learning สำหรับผู้ประกอบการ จนเมื่อผู้ประกอบการ จบขั้นตอนแรกแล้ว ก็จะมีการประเมินผลแบบทดสอบออนไลน์ เพื่อประเมินผลความรู้ สมาชิกที่สอบผ่านแบบทดสอบรวม จะมีโอกาสพัฒนาอีกขั้นสู่ขั้นตอนต่อไป Scaling Up Platform

.

.

Scaling Up Platform ในส่วนนี้จะเริ่มเป็นหลักสูตรอบรมเชิงลึก (Advanced Education) ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ เพื่อเสริมสร้างทักษะการจัดการองค์กรที่เป็นพื้นฐานสำคัญในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านบัญชี ด้านภาษี ด้านกฎหมาย ด้านการเงิน และการจัดการทรัพยากรบุคคล ซึ่งนับว่าเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการ โดยผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในแวดวงตลาดหลักทรัพย์โดยเฉพาะ

รวมไปถึงให้ข้อมูลเอกสารแบบฟอร์มที่สำคัญในทางธุรกิจ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างสะดวก และราบรื่นมากยิ่งขึ้น เพื่อใช้เป็นตัวอย่างการจัดทำเอกสารที่จำเป็นประกอบการทำธุรกิจที่สำคัญ

และการปูทางไปสู่ความร่วมมือกับพันธมิตรให้บริการ Enterprise System เช่น การจัดการด้านบัญชี ด้านการเงิน ด้านภาษี เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการใช้งานระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น

โดยในขั้นตอนนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะคัดเลือกบริษัทที่มีความตั้งใจและมีความพร้อมในการเตรียมตัวระดมทุนในตลาดทุน โดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายการลงระบบ Enterprise System ที่เหมาะสมกับบริษัทให้ใน 1-3 ปีแรก

หากบริษัทใดเข้าร่วมโครงการ และสามารถผ่านหลักสูตรได้ จะได้รับเงินสนับสนุน 1.5 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนในการบริหารจัดการ ให้สามารถเข้าสู่การระดมทุนในตลาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

.

.

จนส่งผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ไปถึงขั้นสุดท้ายคือ Fundraising & Trading Platform เพื่อการระดมทุนผ่านตลาดทุน ทั้งตลาดแรกและตลาดรอง ซึ่งเมื่อผ่านด่านทั้งหมดที่ LiVE Platform วางหลักเกณฑ์ไว้แล้ว ก็จะได้เข้าสู่ตลาดแหล่งทุนในที่สุดนั่นเอง

โดยจะเปิดโอกาสให้ธุรกิจ Startup , SMEs นำเสนอธุรกิจของตนเองแบบออนไลน์ (Virtual Pitching) เพื่อโปรโมทธุรกิจไปยังกลุ่มผู้ลงทุนและบริษัทที่กำลังมองหาพันธมิตรในการขยายธุรกิจ ซึ่งในส่วนนี้ นักลงทุนที่สนใจ จะสามารถเข้ามาค้นหาข้อมูลธุรกิจของ Startups, SMEs ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้สู่สาธารณะ เข้าถึงกลุ่มผู้ลงทุนที่สนใจในธุรกิจของเราได้ตรงความต้องการของแหล่งทุน

.

ทั้งนี้ ได้มีความเห็นถึงแนวทางเพิ่มเติม จากผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai ให้เห็นทิศทางอนาคตของผู้ประกอบการไทยที่จะได้รับจากแพลตฟอร์มว่า LiVE Platform ในส่วน Education Platform เปิดให้ทุกคนที่สนใจเข้าไปเรียนรู้ได้ฟรี แต่เมื่อขยับเป็น Scaling up Platform จะต้องมีการสมัครและได้รับการคัดเลือก โดยต้องเป็นบริษัทต้องแสดงเจตจำนงชัดเจนว่า ต้องการขยายธุรกิจ รวมทั้งยกระดับเป็นการระดมทุนผ่านตลาดทุนใหม่ ตามโครงการ LiVE Exchange

นอกจากนี้การอบรม และการทดสอบความรู้ในส่วนของขั้น LiVE Acceleration Program จะต้องเรียนรู้การทำแผนธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่การระดมทุนอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกบริษัทสามารถมีผู้ร่วมทุน หรือ เข้าสู่กระบวนการยื่นขอเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ได้จริง

.

อย่างไรก็ตาม การเปิด LiVE Exchange เป็นสิ่งที่มีความละเอียดอ่อน โดยด้านหนึ่งจะทำอย่างไรให้บรรดา SME และ Startups สามารถเข้าสู่ตลาดทุนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากหากใช้เกณฑ์ mai น่าจะเข้มจนเกินไป จึงจำเป็นต้องขยับลดเกณฑ์บางอย่าง แต่อีกด้านก็ต้องคุ้มครองนักลงทุนด้วยเช่นกัน

ดังนั้น ตลท. จึงเลือกมุ่งเน้นไปที่จำกัดเฉพาะให้นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความรู้ โดยการซื้อขายจะถูกกำหนดให้เป็นเงินสด และซื้อขายได้เพียงวันละ 1 รอบ เท่านั้น

ในส่วนของเกณฑ์การเข้าระดมทุนในกระดาน LiVE Exchange นั้น แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

1.) SME หากเป็นธุรกิจประเภทบริการ จะต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 50 ล้านบาทต่อปี หากเป็นภาคผลิตต้องมีรายได้ 100 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง แม้จะยังไม่มีกำไร

2.) Startups จะต้องเป็น Post Series A หมายถึงต้องเป็น บริษัทที่มี VC หรือ Venture Capital ร่วมลงทุนอยู่แล้ว เนื่องจากเป็น Startups ได้รับการตรวจสอบจาก VC มาแล้ว เชื่อได้ว่ามีความมั่นคงแข่งแกร่งในระดับหนึ่งแล้ว

.

สุดพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังสนใจใน LiVE Platform เพราะในวันอังคารที่ 14 กันยายน 2564 (พรุ่งนี้) เวลา 10.00-16.30 น. ทาง LiVE Platform กำลังจัดงาน LiVE Demo Day: The New Road to Capital Market พบกับโอกาสของ SMEs และ Startups บนเส้นทางตลาดทุน ด้วยบริการจาก LiVE Platform และทางเลือกการลงทุนบน LiVE Exchange 

ปาฐกถาพิเศษ “ยุทธศาสตร์ส่งเสริม SMEs / Startups ยกระดับขีดความสามารถและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” โดย คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

พร้อมแนะนำบริการต่างๆจาก LiVE Platform เพื่อเป้าหมายการเติบโตและโอกาสการลงทุนใน LiVE Exchange - ตลาดหลักทรัพย์ สำหรับ SMEs และ Startups และเวทีนำเสนอธุรกิจจาก SMEs และ Startups ในโครงการ LiVE Acceleration Program

ลงทะเบียนร่วมงานฟรีที่นี่ : forms.office.com/r/EUfw41aRkB

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs หรือ Startups ที่มีความสนใจจะขยายแหล่งทุนธุรกิจ สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมเริ่มใช้งานคลังความรู้หลักสูตรออนไลน์ได้ทันที ที่สำคัญคือฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ผ่านแพลตฟอร์ม LiVE Platform ที่ www.live-platforms.com หรือติดต่อสอบถามผ่านอีเมล์ [email protected] พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวผ่านช่องทาง Facebook Fanpage : LiVE Platform

.

 


Mostview

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

ผลกระทบขึ้นค่าแรง 400 บาท อาจทำให้สินค้าขยับราคาขึ้น 15%

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้สำรวจความคิดเห็นภาคเอกชน ทั้งในภาคส่วนการผลิต การค้า และบริการ การปรับอัตราค่าแรงในแต่ละครั้งมักจะมีผลกระทบต่อทั้ง GDP เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน รวมถึงอัตราการว่างงานทั้งบวกและลบ

Noumami บริษัทนอร์เวย์ ผลิตน้ำปลาจากแซลมอน แบรนด์แรกของโลก

“น้ำปลา” จัดเป็นสินค้าสัตว์น้ำพื้นเมืองของประเทศไทย โดยปลาที่นิยมนำมาเป็นวัตถุดิบ ได้แก่ ปลากะตัก ปลาสร้อย ปลาซิวแก้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ปลาดังกล่าวที่พูดมาสามารถนำมาทำเป็นน้ำปลาได้ เพราะปลาแซลมอนก็สามารถนำมาผลิตได้เช่นกัน

Wang Ning เจ้าของ Pop Mart ผู้กลายมาเป็นเศรษฐีจากการขายตุ๊กตา Molly ราคา 300 กว่าบาท ทั่วจีน

Pop Mart ร้านขายของเล่น Art Toys ชื่อดัง ที่ชั่วโมงนี้ไม่มีนักสะสมคนไหนไม่รู้จัก พร้อมที่จะมุ่งไปทันทีหากมีการเปิดขายคอลเล็กชันตัวละครใหม่ จนต้องมีการลงทะเบียนเพื่อรับคิวในการเข้าซื้อกันเลยทีเดียว

SmartSME Line