กระเป๋าแบรนด์เนมอีกหนึ่งเครื่องประดับที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากซื้อมาครอบครอง นอกจากความสวยงามแล้ว รู้หรือไม่ว่ากระเป๋าแบรนด์เนมยังเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่สามารถซื้อมาเก็งกำไร ลงทุนเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้

สำหรับในปี 2566 นี้มีกระเป๋าแบรนด์เนมอะไรน่าลงทุนบ้างมาดูกัน

1. HERMÈS MINI KELLY 20

Hermès’ Mini Kelly’s 20 ถือว่าเป็นกระเป๋าถือที่คุ้มค่าแก่การลงทุนที่สุดในปี 2023 ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ต้องการสูงที่สุดในตลาดหรูหรามือสอง โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา mini Kelly’s มีผลกำไรสูงสุด และมีราคาขายทอดตลาดมือสองที่ราคาสูงถึง 20,000-40,000 ดอลลาร์ หากเทียบกับราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 8,500 ดอลลาร์ มีผลตอบแทนที่สูงถึง 200-300%

2. HERMÈS BIRKIN 25

HERMÈS BIRKIN 25 ไม่แปลกใจเลยที่เป็นกระเป๋าถืออันดับสอง ที่น่าลงทุนในปี 2023 เพราะเป็นที่ต้องการอย่างกว้างขวาง เนื่องด้วยการผลิตกระเป๋าถือโดยรวมลดลง ทำให้ Birkin 25 เป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด และยากที่จะหามาครอบครอง โดยราคาขายตั้งต้นตั้งแต่เปิดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 10,145 ปอนด์ ถ้าหากคุณซื้อ Birkin 25 ช่วงต้นปี 2000 ที่ผ่านมา คุณจะได้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 250%โดยแหล่งข่าวระบุเอาไว้ว่าราคาขายปัจจุบันใน shop ประมาณ 13,200 ดอลลาร์ และขายได้ในตลาดมือสองได้สูงถึง 157%

3.Telfar Bag

Telfar Shopping Bag เนื่องจากมีความต้องการสูง สินค้ามีจำนวนจำกัด และเหล่าคนดังอย่าง Dua Lipa, Oprah Winfrey และ Beyoncé ทำให้กระเป๋า Telfar มีมูลค่าการคงอยู่เฉลี่ย 195% ซึ่งหมายความว่ากระเป๋าเหล่านี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าของราคาขายปลีกดั้งเดิม

4. Louis Vuitton Bag

Louis Vuitton x NBA Ball in Basket Bag Louis Vuitton อีกหนึ่งดีไซเนอร์ “unicorn,” มีมูลค่าการขายต่อที่น่าประทับใจเอามากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบกางเกงขาสั้น เช่น กระเป๋า Nigo Keepall Bandoulière มีการเก็บรักษาตามมูลค่าเฉลี่ย 119% ในขณะที่ Louis Vuitton x NBA Ball ใน Basket Bag มีการเก็บรักษาตามมูลค่าเฉลี่ย 147% มูลค่าโดยเฉลี่ยของแบรนด์เมื่อขายต่อคือ 92%

5. Chanel Bag

Chanel Deauville Tote มูลค่าการขายต่อของกระเป๋า Chanel นั้น เพิ่มขึ้นตามราคาตลาดหลักที่เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์จากปี 2021 ที่ผ่านมา การรักษามูลค่าเฉลี่ยของแบรนด์คือ 87% แม้ว่ากระเป๋าหลายใบจะเกิน 100% แต่กระเป๋า Tote Deauville Tote และ Grand Shopping Tote ของ Chanel เป็นหนึ่งในกระเป๋าที่มีมูลค่าสูงสุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 112% และ 110% ตามลำดับ ของมูลค่าในตลาดรอง