วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2567

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

by Smart SME, 2 พฤศจิกายน 2566

เผลอแป๊บ ๆ "คริสปี้ ครีม" (Krispy Kreme Doughnuts) ในไทยปัจจุบันครบ 13 ปีเต็มแล้ว เพราะแอดฯ ยังจำได้จนถึงวันนี้ คือ ย้อนกลับไปวันแรกของการเปิดร้าน ภาพที่คนแห่ต่อแถวรอซื้อโดนัทสัญชาติอเมริกันนี้ แถวยาวเหยียดเป็นปรากฎการณ์ จนลงข่าวหน้าหนึ่งหลาย ๆ สื่อ ในปี พ.ศ.2553 (ปี 2010) สาขาแรก ชั้น G ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

 

ซึ่งการเข้ามาเปิด "คริสปี้ ครีม" ในไทยท่ามกลางแบรนด์โดนัทยักษ์ใหญ่ที่มีเปิดให้บริการก่อนหน้านั้นแล้วหลายแบรนด์ ถือว่า เป็นการประกาศท้าชน พร้อมไฟท์ ช่วงชิงเค้กก่อนนี้ !!

เพราะต้องบอกว่า "ตลาดโดนัท" เป็นอีกหนึ่ง RED OCEAN ที่แข่งขันกันสูงไม่แพ้เชนธุรกิจอื่น ๆ แต่ด้วยมุมมองแนวคิดของ "เจ้าแม่คริสปี้ ครีม" ในเมืองไทย คือ "คุณอุษณีย์ มหากิจศิริ" ผู้นำเข้าแบรนด์ Krispy Kreme จากสหรัฐอเมริกาเข้ามาเปิดในประเทศไทย ซึ่งเธออยากให้คนไทยทุกระดับทุกเพศทุกวัยได้เปิดประสบการณ์ใหม่และสัมผัสความอร่อยของผลิตภัณฑ์โดนัทคริสปี้ ครีม นี้นั่นเอง

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

 

แอดฯ เชื่อว่า มีเพื่อน ๆ หลายคน ที่รู้จัก "คริสปี้ ครีม" แต่อาจจะไม่ได้รับรู้ข้อมูลอัปเดตธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ว่า ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ? เช่นในเรื่องของยอดขาย การเปิดสาขา และทิศทางการทำการตลาดของแบรนด์

และความน่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ.. ดูเหมือน "คริสปี้ ครีม" จะขยายสาขาไม่ได้มากนะ แต่เชื่อไหมว่า ผลประกอบการหรือยอดขาย "คริสปี้ ครีม" ในไทย ไม่ได้แผ่วลงเลย แถมกลับมียอดจำหน่ายสวนกระแสเศรษฐกิจอีกด้วย

ไปติดตามอัปเดตแบรนด์ "คริสปี้ ครีม" พร้อมกันดีกว่า ระหว่างติดตาม เพื่อน ๆ ก็สั่ง "คริสปี้ ครีม" มาทานด้วยก็ได้นะ

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

 

ข้อมูลธุรกิจ

บริษัท เคดีเอ็น จำกัด (Krispy kreme)

บริหารโดย : บริษัท เคดีเอ็น จำกัด
วันที่จดทะเบียน : 17 ก.ย.2552
ทุนจดทะเบียน : 38 ล้านบาท
ผู้บริหาร : นางสาวอุษณีย์ มหากิจศิริ , นายลอภ์เรนฆ์ เนโปมูเสโน ลีโอณีโอ , นางสาวเจนสิริ พันธ์เกาะเลิ่ง

 

ผลประกอบการ

ปี 2563
รายได้ : 646.6 ล้านบาท
กำไร : 26 ล้านบาท

ปี 2564
รายได้ : 692.6 ล้านบาท
กำไร : 28.9 ล้านบาท

ปี 2565
รายได้ : 872.7 ล้านบาท
กำไร : 37.4 ล้านบาท

 

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?


ก่อนอื่นมาดูมูลค่าตลาดโดนัท ในไทยที่แข่งขันกันไม่พัก ในแต่ละปี ๆ ทุกแบรนด์ก็ช่วงชิงส่วนแบ่งยอดขายและฐานลูกค้าแบบหายใจลดต้นคอกันก็ว่าได้

โดยมูลค่าธุรกิจโดนัทในประเทศไทยมีเงินสะพัดกว่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็บิ๊กเบิ้มด้วยกันทั้งนั้น คนไทยรู้จักกันดี และต่างก็เป็น FC ของแต่ละแบรนด์

 

• Mister Donut ยังคงเป็นผู้นำอยู่ ด้วยส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 50% กับการขยายสาขาไปกว่า 370 แห่งทั่วไทย

• Dunkin' Donuts ตามมาด้วยส่วนแบ่งตลาดราว 30% กับการขยายสาขาแตะ 300 แห่งทั่วประเทศเช่นกัน

• Krispy Kreme ตามมาไม่ห่างนัก ด้วยส่วนแบ่งตลาดราว 20% กับการขยายสาขาร่วม 60 สาขาในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่

• Daddy Dough และ Tim Hortons (ทิม ฮอร์ตันส์) ตลอดจนแบรนด์อื่น ๆ ด้วยส่วนแบ่งตลาดราว 10-15%

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?


ด้วยเหตุผลส่วนหนึ่งที่พอเข้าใจได้ คือ "คริสปี้ ครีม" ค่อนข้างเน้นเจาะกลุ่มตลาด Location หรือทำเลที่เหมาะสมต่อการขยายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัดในบางหัวเมืองใหญ่ ๆ จึงทำให้ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ Mass Market

สำหรับ "คริสปี้ ครีม" จริง ๆ มีอายุครบ 86 ปี ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในสหรัฐฯ ในปี ค.ศ.1937 แต่ที่เราจะพูดถึง คือ คริสปี้ ครีม ในประเทศไทย ที่นำเข้ามาขายครั้งแรกโดย "คุณอุษณีย์ มหากิจศิริ" ภายใต้การบริหารกิจการโดย บริษัท บริษัท เคดีเอ็น จำกัด (KDN)

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

 

 

โดยแนวคิด ของ คุณอุษณีย์ มหากิจศิริ ที่นำเข้า "คริสปี้ ครีม" มาเปิดตลาดในเมืองไทย ก็เพราะ อยากให้ผู้บริโภคคนไทยอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่รู้จัก และยังไม่มีโอกาส ได้เข้าถึง โดนัทคริสปี้ ครีม ให้มากขึ้น

ซึ่ง "คริสปี้ ครีม" หากถามสายหวาน และ FC ที่ชื่นชอบ จะตอบได้เลยว่า จุดเด่นคือ เป็นแบรนด์โดนัทที่มีเอกลักษณ์เคลือบน้ำตาล มีรสชาติค่อนข้างหวานอร่อยมาก ๆ ถ้าได้ทานตอนทำเสร็จใหม่ ๆ เพิ่งขึ้นจากเตา อร่อยมากจริง ๆ !! เพราะ ตัวโดนัทฟูนุ่มสุด ๆ แต่เนื้อน้อยซื้อแล้วกินเลยสด ๆ หน้าร้าน คืออร่อยฟินจริง ๆ

ด้วยการบริหารของ บริษัท บริษัท เคดีเอ็น จำกัด โดยขณะนี้ "คริสปี้ ครีม" ให้บริการรวมกว่า 60 สาขาในไทยไปแล้ว แต่กับระยะเวลา 13 ปีที่เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย ซึ่งดูไม่ได้เยอะ แต่เน้นในเรื่องของคุณภาพ และการให้บริการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์ทำมาโดยตลอด

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?


"คริสปี้ ครีม" ตัวอย่างสาขาในไทย (อัปเดต ตุลาคม 2566)

สยามพารากอน
ดิ เอ็มควอเทียร์
ดิ เอ็มโพเรียม
เมกาบางนา
เซ็นทรัล บางนา
ลีลมคอมเพล็กซ์
สามย่านมิตรทาวน์
BTS ชิดลม
เทอร์มินอล 21 อโศก
เซ็นทรัลเวิลด์
เซ็นทรัล ลาดพร้าว
เซ็นทรัล พระราม 9
เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต
เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์
เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2
เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3
เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์
เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ
เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา
เดอะมอลล์บางกะปิ
เดอะมอลล์ท่าพระ
เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์
เดอะสตรีท รัชดา
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 และ 2
ท่าอากาศยานดอนเมือง 1 และ 3
สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ สายใต้ใหม่
เซ็นทรัล อยุธยา
เดอะมอลล์ โคราช
เทอร์มินอล 21 โคราช
เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยาบีช
เซ็นทรัลชลบุรี
เซ็นทรัล จันทบุรี

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

 


สำหรับกลยุทธ์ ที่ดูจะเปิดสาขาน้อย แต่ยอดขายกลับสวนทางได้มาก และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ คำตอบ คือ การเลือกเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า หรือทำเลทองจริง ๆ ทำให้ทุกสาขาของ "คริสปี้ ครีม" มียอดขายที่ไม่ได้ลดลงเลย

ตลอดจนการทำการตลาดออนไลน์ บริการเดลิเวอรี่ ซึ่งเป็นช่องทางขายที่ทุกธุรกิจต้องทำอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ "คริสปี้ ครีม" เข้าถึงลูกค้าที่ไม่สะดวกมาซื้อหน้าร้าน ช่วยประชาสัมพันธ์และได้ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นไปอีก

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?


ทำไม ? คนไทยชื่นชอบ Krispy Kream

ถ้าตอบแบบให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เอกลักษณ์โดนัทที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะรส "ออริจินอล" คือ อร่อยมาก ทอดร้อนเสร็จใหม่ แล้วกินทันที ละลายในปาก ! ในส่วนจุดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์โดนัทอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น..


ตัวแป้ง

ตัวแป้งของคริสปี้ครีม ไม่เหมือนกับเจ้าอื่น ซึ่งจะไม่ยวบ แต่เป็นแป้งนิ่ง ๆ ที่กัดไปแล้วกำลังพอดี ๆ ทำให้ทานได้ทั้งชิ้นโดยที่ไม่รู้สึกเลี่ยน และไม่ได้ให้แค่สัมผัสของการเคี้ยวแป้งเพียงอย่างเดียว


ทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน

นอกจากแป้งที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว FC ส่วนใหญ่บอกว่า ชอบที่ตัวโดนัทที่ไม่ทำให้รู้สึกเลี่ยน โดยปกติถ้าหากเราทานโดนัทจากแบรนด์ทั่ว ๆ ไปเป็นจำนวน 1-2 ชิ้น เราจะรู้สึกเลี่ยนตามภาษาการกินของหวาน ๆ ที่มีน้ำมันประกอบอยู่ด้วย

แต่การทานครัสปี้ครีม นั้นแตกต่างออกไป เนื่องจากแบรนด์นี้ไม่นำโดนัทไปทอดในน้ำมัน แต่นำไปอบจนเกิดการพองฟู นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้โดนัทไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ และสามารถทานได้เรื่อย ๆ ไม่เบื่อ


กินไม่หมด ปล่อยค้างไว้นานก็ยังอร่อย

โดยปกติแล้ว โดนัทเมื่อซื้อมาก็ต้องรีบทานก่อนแป้งจะเหนียว ถ้าข้ามคืนไป 1 วันก็จะหมดความอร่อยแล้ว เพราะแป้งที่อมน้ำมันจะเหม็นหืน อากาศก็จะเข้า ทำให้แป้งทั้งแข็งและชืด แต่ที่สำหรับโดนัทคริมปี้ครีมแตกต่างออกไป เชื่อว่า หลายคนเคยลองเก็บไว้ในตู้เย็นค้างถึง 2 วัน 2 คืน แต่เมื่อนำออกมาทานกลับอร่อยเหมือนเดิม มิหนำซ้ำ เพราะมันเย็น ๆ เวลากินแล้วก็ได้สัมผัสที่แตกต่างไปจากตอนอุณหภูมิปกติ

 

ตามดู 13 ปี

ตามดู 13 ปี "คริสปี้ ครีม" ในไทย เปิดสาขาน้อย แต่ขายได้มาก !?


บทสรุป แม้ว่า "คริสปี้ ครีม" จะสู้แบรนด์ใหญ่ ๆ ยังไม่ได้ในแง่มุมของยอดจำหน่าย และการขยายสาขา แต่เพราะความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนนี่แหละ ที่เป็นกลไก และตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ตลาดโดนัทของคริสปี้ครีม เติบโตไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าจะสะดุดอีกนาน

และที่สำคัญ Products ใหม่ ๆ ของทาง คริสปี้ ครีม ก็ทำออกมาจับจุดตลาดได้ทันกระแสและตอบโจทย์คนกินได้ดีอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งทำให้แบรนด์น่าจับตามอง มีลูกเล่นที่ตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่ได้อยู่ตลอด ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลาย ๆ คนตกหลุมรัก และอยากจะลิ้มลองโดนัทแบรนด์นี้นั่นเอง

 


Mostview

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

ผลกระทบขึ้นค่าแรง 400 บาท อาจทำให้สินค้าขยับราคาขึ้น 15%

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้สำรวจความคิดเห็นภาคเอกชน ทั้งในภาคส่วนการผลิต การค้า และบริการ การปรับอัตราค่าแรงในแต่ละครั้งมักจะมีผลกระทบต่อทั้ง GDP เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน รวมถึงอัตราการว่างงานทั้งบวกและลบ

Wang Ning เจ้าของ Pop Mart ผู้กลายมาเป็นเศรษฐีจากการขายตุ๊กตา Molly ราคา 300 กว่าบาท ทั่วจีน

Pop Mart ร้านขายของเล่น Art Toys ชื่อดัง ที่ชั่วโมงนี้ไม่มีนักสะสมคนไหนไม่รู้จัก พร้อมที่จะมุ่งไปทันทีหากมีการเปิดขายคอลเล็กชันตัวละครใหม่ จนต้องมีการลงทะเบียนเพื่อรับคิวในการเข้าซื้อกันเลยทีเดียว

KFC มาเลเซียปิดกว่า 100 สาขา เพราะถูกชาวมุสลิมคว่ำบาตรธุรกิจสัญชาติสหรัฐฯ

KFC แฟรนไชส์สัญชาติอเมริกันกำลังตกเป็นเป้าหมายการรณรงค์คว่ำบาตรธุรกิจของประเทศที่มีความเชื่อมโยงกับอิสราเอลที่ทำสงครามกับชาวปาเลสไตน์จนมีประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

SmartSME Line