วันเสาร์, เมษายน 27, 2567

อุตสาหกรรมไทย 4.0 ต้องใช้เทคโนโลยีช่วยขับเคลื่อน

by Smart SME, 12 ตุลาคม 2560

นายสมบูรณ์ พิทยรังสฤษฏ์ รองเลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กลุ่มเทคโนโลยีที่จะมีผลกระทบอย่างมากต่อประเทศในการเข้าสู่ อุตสาหกรรมไทย 4.0 มีทั้งกลุ่มเทคโนโลยีด้านระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และการเพิ่มประสิทธิในการผลิต กลุ่มยานยนต์แห่งอนาคตและรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องเร่งปรับตัว และยกระดับให้เข้าสู่อุตสาหกรรมดังกล่าว อีกส่วนก็คือไบโออีโคโนมีที่จะส่งผลให้ภาคการเกษตร และอาหารของไทยสามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นได้ โดยประเทศไทยมีศักยภาพในด้านนี้อย่างมาก รวมถึงจะมีผลทำให้เกษตรกรของไทย ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศเพิ่มมีรายได้สูงขึ้น และหลุดพ้นจากปัญหาความยากจนในระยะยาวได้

กลุ่มเทคโนโลยีที่จะส่งผลต่อการนำประเทศเข้าสู่ อุตสาหกรรมไทย 4.0

  1. เทคโนโลยีด้านระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์
  2. เทคโนโลยีด้านยานยนต์แห่งอนาคตและรถยนต์ไฟฟ้า
  3. เทคโนโลยีด้านไบโออีโคโนมี
ขณะเดียวกัน ส.อ.ท.ได้มีการร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมต่อยอดการส่งเสริมการวิจัยนำมาต่อยอดในภาคอุตสาหกรรมและการผลิต โดยในปัจจุบันกระทรวงวิทย์ฯ มีโปรแกรมเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการสร้างนวัตกรรมและส่งเสริมใช้เทคโนโลยี เพื่อร่วมเปลี่ยนแปลงการผลิต รวมถึงการ ส.อ.ท.ได้เร่งกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยปรับจาก อุตสาหกรรม 3.0 เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ทางด้านนายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยมีจำนวนสมาชิกมากกว่า 1 แสนรายทั่วประเทศ โดยผู้ประกอบการต้องที่จะต้องหานวัตกรรมและสร้างนวัตกรรมในธุรกิจ จึงต้องมีการร่วมมือผลักดันการสร้างนวัตกรรมให้ธุรกิจ พร้อมกับการนำงานวิจัยของกระทรวงวิทย์ฯ นำไปใช้ประโยชน์มากที่สุด รวมถึงส่งเสริมให้เอสเอ็มอีไทยปรับมาใช้นวัตกรรมและงานวิจัยเช่นกัน

Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line