วันศุกร์, เมษายน 26, 2567

ถอดบทเรียน…วิถีเรียบง่ายสไตล์ MUJI ชื่อแบรนด์ที่แปลว่า “ไม่มีแบรนด์ …

by Smart SME, 17 ตุลาคม 2561

“มูจิ” คือแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ กำเนิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 1980 โดยวางขายสินค้าคุณภาพดีหลากหลายชนิดตั้งแต่เครื่องเขียน สินค้าในครัวเรือน จนไปถึงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและอาหาร

สำหรับชื่อ มูจิ เป็นคำเรียกสั้นๆ มาจากคำเต็มว่า “มูจิรุชิ เรียวฮิน” (Mujirushi Ryohin) ที่ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า “สินค้ามีคุณภาพ แต่ไม่มียี่ห้อ” ซึ่งช่วงยุค 1950 เริ่มมีห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นในญี่ปุ่น สินค้าส่วนใหญ่มาจากผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายที่มีสินค้าน่าสนใจมาขายในห้าง แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรจากผู้บริโภค

ในช่วงปี 1977-1978 ธุรกิจค้าปลีกในญี่ปุ่นเกิดการแข่งขันกันมากขึ้นทำให้ต้องสู้กันด้วยเรื่องของราคา คุณภาพสินค้าก็ด้อยลงไปด้วย ทำให้ยอดขายตกต่ำสุดๆ

ในเวลาต่อมา ห้างสรรพสินค้าเซยู (Seiyu) ก็ประสบกับปัญหานี้เช่นกัน จึงมีความคิดพัฒนาสินค้าที่เป็นไพรเวทแบรนด์ขึ้น โดยยึดตามแนวความคิด “เรียบง่าย” และเป็นที่มาของการกำเนิดมูจิในปี 1980 เริ่มแรกมีสินค้าจำหน่าย 40 รายการ ภายใต้สโลแกน “Lower Priced for a Reason” คือ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้สินค้าในราคาที่เหมาะสม

กระทั่งในปี 1989 แผนกมูจิรุชิ เรียวฮิน ได้แยกออกมาจากห้างเซยู และก่อตั้งเป็นบริษัท เรียวฮิน เคคาขุ จำกัด (Ryohin Keikaku Co Ltd.) แล้วเริ่มขยายสาขาร้านมูจิไปต่างประเทศเป็นแห่งแรกที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี 1991 พร้อมกับเพิ่มกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องซักผ้า ตู้เย็น โทรศัพท์ เตาไมโครเวฟ กลุ่มเครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี เด็ก เป็นต้น

มูจิ เปิดทำเปิดทำการในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในปี 2006 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมดในประเทศไทย 17 สาขา
ซึ่งสิ่งที่ MUJI ยึดถือในการขายสินค้า มาจากหลักสามประการ ซึ่งยังคงใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้คือ


1. การคัดสรรวัตถุดิบ
2. การปรับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ
3. การทำบรรจุภัณฑ์ให้มีความเรียบง่าย

“สิ่งสำคัญที่สุดคือ แก่นแท้ของผลิตภัณฑ์ MUJI เน้นความเรียบง่าย มีประโยชน์หลากหลาย และความพอเพียง ที่สามารถเข้ากับการใช้ชีวิตของทุกคนได้นั่นเอง…..”


Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line