วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2567

เศรษฐกิจแบบนี้........ดูแลพนักงานอย่างไรในการฝ่าวิกฤต

by Smart SME, 9 สิงหาคม 2558

                               เศรษฐกิจแบบนี้........ดูแลพนักงานอย่างไรในการฝ่าวิกฤต

 

ชยางกูร เเก้วบัณฑิต

            หลังจากเกิดเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นมาพร้อมๆกัน  GDP ของประเทศต่ำกว่า 3% เศรษฐกิจโลกทั้ง อเมริกา จีน รัสเซีย ยูโรโซนไม่ดี ทำให้ตลาดการส่งออกหดตัวต่ำกว่าประมาณการ และทำให้นักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ๆของประเทศหายไป เช่น นักท่องเที่ยวคุณภาพดีจากยุโรปลดลง นักท่องเที่ยวจากรัสเซียหายไปอย่างน่าใจหาย การแข่งขันในตลาดสินค้าการเกษตรไม่ว่าจะเป็น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง น้ำตาล สูงขึ้นอย่างรุนแรง และมีปัญหาภัยแล้งเข้ามาซ้ำเติม ส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างรุนแรง ส่วนภาคอุตสาหกรรม เริ่มมีการปลดคนงาน หรือ early retire พนักงาน office ก็หนาวๆร้อนๆ จากการประกาศลดคนประมาณ 1500 คนของบริษัท การบินไทยจำกัด ( มหาชน ) ขวัญกำลังใจไม่ดีในบาง sector มีคนว่างงานทั้งในระบบและนอกระบบมากขึ้น ในแวดวงธุรกิจ ก็มีการเบี้ยวหนี้ ตีเช็คเด้ง มีการโกงสารพัดรูปแบบ  ภาครัฐเองก็ไม่สามารถใช้นโยบายทั้งการเงินการคลัง มาช่วยทั้งภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไปได้ จากปัญหาเหล่านี้จะลามไปสู่ปัญหาสังคม เช่น การมีขโมย ลักเล็กขโมยน้อย มือใหม่เกิดขึ้นเยอะ จากสภาพการณ์ที่ เห็นพอจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเจอวิกฤตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไปอีกปี ผมมีข้อแนะนำสิ่งดีๆมาฝากครับ

           1. สำหรับบริษัทที่ผลประกอบการยังดี พออยู่ได้ ต้องหามาตรการช่วยเหลือพนักงานชั้นผู้น้อย เพื่อซื้อใจและแสดงน้ำใจ อย่างจริงใจ เวลานี้จะได้ใจพนักงานมากครับ พวกเค้าจะจดจำเรื่องดีๆแบบนี้ไปจนเกษียนเลยครับ      เช่น มีวงเงินกู้ฉุกเฉินให้พนักงานกู้ยืม แต่ต้องจำกัดวงเงินและเงื่อนไขที่จำเป็นจริงๆนะครับ หรือ จัดทำกับข้าวทานฟรีร่วมกับพนักงานอาทิตย์ละครั้ง ผู้บริหารควรจะมาทานด้วย เพื่อทั้งรับฟังปัญหาในงานและเรื่องทั่วๆไป เพื่อเตรียมรับมือถ้าสภาพเศรษฐกิจทำท่าจะลากยาว

           2. ออกมาตรการมาคอยสอดส่องการทุจริตจากพนักงานที่มีโอกาสเกี่ยวข้องกับเงินๆทองๆ เช่น ฝ่ายการเงินต้องพยายามลดความเสี่ยงในการให้พนักงานถือเงินสดในจำนวนมากๆ ช่วงนี้พนักงานบางคนอาจมีปัญหาด้านการเงินมากๆก็พร้อมที่จะทุจริตได้เนื่องจากหมดหนทาง

           3.บริษัทควรมีการสื่อสารกับพนักงานบ่อยๆในหลายๆรูปแบบในเรื่องสถานะทางการเงิน และ ออกมาตรการช่วยกันประหยัดในทุกๆมิติ เช่น ช่วยกันปิดน้ำ ปิดไฟ ใช้ทรัพยากรของบริษัทให้คุ้มค่าที่สุด การสื่อสารแบบนี้อาจจะช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายประจำลดลงไม่มากนัก แต่เริ่มเป็นการสร้างความรักความเข้าใจว่าเราจะฟันฝ่าวิกฤตนี้ร่วมกัน

           4. HR ต้องคอยสอดส่องปัญหาพนักงานอย่างใกล้ชิด เช่น การยืมเงินของพนักงานบางคนจนผิดสังเกต เพราะจากลักษณะแบบนี้ พนักงานคนนั้นพร้อมจะหนีไปและทิ้งปัญหาให้กับบริษัทและเพื่อนร่วมงาน

           5. ในกรณีที่บริษัทเริ่มมีปัญหาทางการเงินแล้ว ต้องรีบสื่อสารให้พนักงานทราบอย่างจริงใจ เพื่อให้พนักงานเตรียมตัว และเข้าใจในสถานการณ์ ที่บริษัทเผชิญอยู่ ทำแบบนี้เวลาต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วนจะได้เข้าใจและไม่เกิดการฟ้องร้องเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ซึ่งถ้าเกิดการฟ้องร้องจริงคดีแรงงาน เป็นคดีแพ่งและอาญานะครับ ถ้าหากสถานการณ์ไม่ดีก็การทำการเลิกจ้างควรจ่ายเงินค่าชดเชยให้ถูกต้องนะครับ โดยระบุไปเลยว่าสาเหตุการเลิกจ้างเนื่องจากสถานะการเงินบริษัทไม่ดี

           6. ก่อนหน้าที่จะไปถึงการเลิกจ้าง  นอกจากสื่อสารต้องแสดงความจริงใจ เช่น การประชุมหาทางออกร่วมกันกับพนักงาน เช่น การลดเงินเดือนผู้บริหารในสัดส่วนที่มากกว่าพนักงานชั้นผู้น้อย หรือ ลดเวลาการทำงานลงเพื่อลดค่าใช้จ่าย และเปิดโอกาสให้พนักงานหางานใหม่ ผมขอเน้นนะครับช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญมาก เพราะถ้าคิดว่าปัญหาจะเกิดในช่วงไม่นานก็อาจจะบอกกับพนักงานว่า ถ้าเรากลับมาได้เราพร้อมจะรับพนักงานกลับเข้ามาเหมือนเดิม แต่ถ้าคิดว่าเรากลับมาไม่ได้แน่ๆต้องไม่โกหกและให้ความหวังพนักงาน

            7. ช่วงนี้จะทำอะไรกับพนักงานควรมีเมตตาธรรม และการสื่อสารที่ดี เช่น พยายามหาทางช่วยพนักงานให้ได้งานใหม่โดยใช้ connection ของผู้บริหาร ให้ความรู้เกี่ยวกับสวัสดิการของความช่วยเหลือของสำนักงานประกันสังคมอย่างละเอียด

            สถานการณ์แบบนี้ บริษัทจะต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจกับพนักงานอย่างชัดเจน และต่อเนื่อง ถ้าเราแสดงความพยายามดูแล และช่วยเหลือพนักงาน พนักงานที่เหลืออยู่ก็พร้อมจะช่วยกันสู้ถวายหัวให้วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี ยังไงผมยังคงเน้นการสื่อสารที่ใกล้ชิดและจริงใจตลอด และขอให้บทความนี้ เป็นประโยชน์ช่วยเหลือกับทั้งบริษัท และพนักงานที่ไม่เคยเจอวิกฤตปี 40 ได้ร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ทุกๆราย


Mostview

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

ผลกระทบขึ้นค่าแรง 400 บาท อาจทำให้สินค้าขยับราคาขึ้น 15%

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้สำรวจความคิดเห็นภาคเอกชน ทั้งในภาคส่วนการผลิต การค้า และบริการ การปรับอัตราค่าแรงในแต่ละครั้งมักจะมีผลกระทบต่อทั้ง GDP เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน รวมถึงอัตราการว่างงานทั้งบวกและลบ

Noumami บริษัทนอร์เวย์ ผลิตน้ำปลาจากแซลมอน แบรนด์แรกของโลก

“น้ำปลา” จัดเป็นสินค้าสัตว์น้ำพื้นเมืองของประเทศไทย โดยปลาที่นิยมนำมาเป็นวัตถุดิบ ได้แก่ ปลากะตัก ปลาสร้อย ปลาซิวแก้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ปลาดังกล่าวที่พูดมาสามารถนำมาทำเป็นน้ำปลาได้ เพราะปลาแซลมอนก็สามารถนำมาผลิตได้เช่นกัน

Wang Ning เจ้าของ Pop Mart ผู้กลายมาเป็นเศรษฐีจากการขายตุ๊กตา Molly ราคา 300 กว่าบาท ทั่วจีน

Pop Mart ร้านขายของเล่น Art Toys ชื่อดัง ที่ชั่วโมงนี้ไม่มีนักสะสมคนไหนไม่รู้จัก พร้อมที่จะมุ่งไปทันทีหากมีการเปิดขายคอลเล็กชันตัวละครใหม่ จนต้องมีการลงทะเบียนเพื่อรับคิวในการเข้าซื้อกันเลยทีเดียว

SmartSME Line